พล็อตหลักของหนังเรื่อง Low Season ทำให้นึกถึง Spellbound หนังเกาหลีที่ฉายเมื่อปี 2554 “หลิน” กับ “คังโยริ”

     “เป็นนางเอกที่มีชีวิตอยู่ในวังวนของการมองเห็นผีและประสบปัญหาเดียวกัน ที่กระทบกับความสัมพันธ์ของเธอทั้งคู่ แม้ของเกาหลีจะโหดกว่าด้วยบทบาทจองล้างจองผลาญบางประการของผี ทำเอานางเอกอยู่ใกล้ใครโดยที่คนคนนั้นไม่โดนหลอกไม่ได้เลย ในขณะที่หนังผีของไทยดูจะเป็นการมองเห็นแบบแรนด้อม มองเห็นไปเรื่อย แบบที่ผีไม่ได้ตั้งใจหลอก แต่ถึงกระนั้นหลินก็ต้องอกหักเพราะปัญหานี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า รวมถึงครั้งล่าสุดนี้ด้วย”

 

หลิน อกหักจากแฟนหนุ่มรุ่นพี่ที่ตอนนี้กลายเป็นศิลปินชื่อดังแล้ว เธอเก็บกระเป๋าและพกพาความเศร้าออกเดินทางทริปล้างใจขึ้นกิ่วแม่ปาน จังหวัดเชียงใหม่ สถานที่แห่งความทรงจำของรักครั้งนี้ ด้วยความตั้งมั่นว่า “เริ่มที่ไหนต้องจบที่นั่น” กระทั่งได้พบกับ พุธ หนุ่มนักเขียนบทที่เพิ่งถูกแฟนทิ้งมา แล้วจับพลัดจับผลูไปอยู่โฮมสเตย์คนโสดในบรรยากาศท่ามกลางสายหมอกและหุบเขา ได้เจอผู้คนใหม่ๆ สหายร่วมชะตากรรมอกหักทั้งหลาย ได้ผจญภัยลุยเขาหนีผีเฮฮาในช่วงเวลาสั้นๆ จนค้นพบความรู้สึกที่อาจจะกลายเป็น “รักครั้งใหม่” ของตัวเอง

 

โดยหน้าหนังแล้ว Low Season เป็นหนังตลกที่จริงจังกับความตลกเอามากๆ โดยที่หนังไม่ได้พยายามทำ “เกินตัว” แต่อย่างใด เหมือนตั้งมั่นว่าคนดูจะต้องหัวเราะก่อนแล้วอย่างอื่นค่อยว่ากันทีหลัง ซึ่งทำสำเร็จด้วยนะ มันตลก สนุก เป็นธรรมชาติ จัดลำดับมุขตลกต่างๆ นานา พร้อมกับดำเนินเรื่องได้ดี เคมีของพระนางก็ดีงาม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พลอยไพลิน ตั้งประภาพร บล็อกเกอร์สาวในชีวิตจริง ผู้รับบทนางเอกในเรื่องนี้เป็นครั้งแรกนั้น มีธรรมชาติที่เหมาะกับการเป็นนางเอกหนังรอมคอมเป็นอย่างมาก เรียกว่าดูแล้วชวนรัก ชวนเอาใจช่วย

 

นอกจากเป็นหนังตลกแล้วเรายังได้เห็น “มิติทางความสัมพันธ์” เชื่อว่าไม่ว่าใครก็อยากรักกับคนที่ “เข้าอกเข้าใจกัน” “คุยกันรู้เรื่อง” “เข้ากันได้” แต่เอาเข้าจริงคำเหล่านี้ให้ความหมายที่ค่อนข้างกว้าง อาจต้องขยายความอย่างละเอียดหรือเฉพาะเจาะจงว่าคืออะไรบ้าง แล้วถ้าวันหนึ่งคนรักของเราบอกว่า ที่เขาตกอกตกใจเพราะเห็นผี เราจะเชื่อมั้ย แล้วจะทำยังไงต่อไป จะหวาดกลัว อยู่เคียงข้าง บอกว่าเข้าใจแต่พาเขาไปพบจิตแพทย์ หรือจะทำยังไงดี

 

ถ้าเป็นเรื่องอื่นๆ ที่ไม่ใช่เห็นผี แต่เป็นเรื่องที่เชื่อยากคล้ายๆ กัน หรือเป็นเรื่องที่เราคิดว่าไม่สลักสำคัญ เราจะปัดมันทิ้ง แล้วทำให้เขาไม่กล้าพูดเรื่องนี้กับเราอีกเลย จนกลายเป็นที่มาของความไม่เข้าใจหรือไม่

 

ดูหนังเรื่องนี้จบอย่างมีความสุขแล้วก็รำพึงรำพันกับตัวเองว่า ในรอมคอมทุกๆ เรื่อง มีแง่มุมความสัมพันธ์ที่ชวนขบคิดอยู่ในนั้นเสมอเลย ซึ่งเป็นเสน่ห์ที่ดีจริงๆ

 

อีกหนึ่งองค์ประกอบที่โดดเด่นและ Low Season ทำได้ดีก็คือ การใช้ฉากหลังป่า เขา ดอย หมอก แห่งหน้าฝนภาคเหนือมาช่วยสร้างบรรยากาศ เลือกนำเสนอได้ดีด้วยค่ะ ไม่เห็นสิ่งที่เป็นจริตนักท่องเที่ยว แบบที่ถ่ายแต่แลนด์มาร์คหรือสถานที่สำคัญๆ แต่ได้เห็นความสวยงามของธรรมชาติภาคเหนือจริงๆ

 

 

ใครที่เพิ่งอกหัก เก็บกระเป๋าขึ้นเหนือไปล้างใจตามรอยหนังเรื่องนี้กันได้ ขอให้สดชื่น ได้เติมสิ่งดีๆ สู่หัวใจ และขอให้ไม่เจอผีนะ ทุกคน : )

 

HUG Magazine

คอลัมน์: สวมแว่นสีชมพูดูหนัง 

เรื่อง: รอมคอมแอดมิน