เกาะกูด สวรรค์อันดามันตะวันออก

คนมาทะเล ไม่หนีร้อนก็หนีรัก

แม้ย่างเข้าสู่ฤดูฝนแล้ว แต่อากาศยังคงร้อนอยู่

ทริปนี้เลยหอบเสื้อผ้า หยิบชุดว่ายน้ำตัวโปรดลงกระเป๋า

หนีเมืองกรุงอันแสนจะอบอ้าว ไปนอนรับลมสบายๆ บนเกาะกูด

เกาะสวรรค์ของคนรักทะเล

‘เกาะกูด’ เป็นอำเภอหนึ่งในจังหวัดตราด ถือเป็นเกาะทางภูมิภาคตะวันออกสุดของประเทศไทย ขนาดพื้นที่ของเกาะกูดนั้นอยู่ในลำดับ 6 ของประเทศ และเป็นอันดับ 2 รองจากเกาะช้างในจังหวัดตราด ปัจจุบันเกาะกูดยังคงไว้ซึ่งความอุดมสมบูรณ์ทั้งบนบกและทางทะเล แถมผู้คนยังมีอัธยาศัยไมตรีที่ดี เล่ากันว่าชาวบ้านบนเกาะแห่งนี้ ส่วนหนึ่งอพยพมาจากเมืองปัจจันตคีรีเขตร ซึ่งกลายเป็นเมืองของฝั่งประเทศกัมพูชา ปัจจุบันชาวบ้านที่นี่มีอาชีพหลัก คือทำประมง เกษตรกรรม สวนยางพารา สวนมะพร้าว สวนผลไม้ และอีกอาชีพที่สร้างรายได้ควบคู่กันไปก็คือ ให้บริการแก่นักท่องเที่ยว บริการนำเที่ยวรอบเกาะ

เวลาจวนเที่ยง รถคู่ใจก็มาถึงแหลมศอกอันเป็นท่าเรือหลัก เรือเฟอร์รี่ลำใหญ่จอดรออยู่เพื่อพาผู้คนข้ามไปยังเกาะกูด มีเรือไปกลับเกาะกูดวันละ 3 เที่ยว ทั้งช่วงเช้าและช่วงบ่าย ใช้เวลาเดินทางจากฝั่งจนถึงเกาะประมาณหนึ่งชั่วโมงครึ่ง บรรยากาศบนเรือมีผู้คนคลาคล่ำ เสียงจ้อกแจ้กแต่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม กับความรู้สึกของการไปพักผ่อน ภายใต้เสื้อชูชีพสีแสบตา อันเป็นมาตรฐานความปลอดภัยในการเดินทางทางทะเล เมื่อเรือจอดเทียบท่าก็เป็นอันว่าเราได้มาถึงเกาะกูดกันแล้ว จากนี้ต้องขึ้นรถสองแถวอีกทอดหนึ่ง เพื่อเดินทางไปยังชุมชนบ้านคลองมาด ชุมชนเก่าแก่ที่สุดบนเกาะกูด อันเป็นจุดหมายปลายทางและที่พักของเราตลอดทริปนี้

 

เช้าวันใหม่หลังจากเติมพลังด้วยอาหารมื้อแรก ก็ถึงเวลาท่องเที่ยวกับกิจกรรมดำน้ำดูปะการัง โปรแกรมยอดฮิตที่ต้องมีทุกครั้งเมื่อไปทะเล สปีดโบ๊ทลำเล็กขนาดพอเหมาะแล่นทะยานออกสู่ท้องทะเล แสงแดดจ้าสะท้อนน้ำทะเลสีฟ้าเทอร์ควอยซ์จนเกือบเป็นสีเดียวกับท้องฟ้า เมฆสีขาวลอยฟ่องเต็มท้องฟ้า เรือขับพาชมวิวไปรอบๆ เกาะน้อยใหญ่ ผู้โดยสารก็เพลิดเพลินกับทิวทัศน์เบื้องหน้า จนลืมความร้อนแรงของแสงแดดไปชั่วขณะ เสียงเครื่องยนต์เงียบลงตรงบริเวณใกล้กับ ‘เกาะแรด’ ด้านทิศตะวันตกของเกาะกูด ที่นี่เป็นจุดดำน้ำตื้นอันมีชื่อเสียงอีกแห่งของจังหวัดตราด

นอกจากการชมปะการังและฝูงปลาสวยงามใต้ท้องทะเลแล้ว ไฮไลท์ของการมาดำน้ำที่เกาะแรดก็คือ ‘ประติมากรรมรูปสัตว์’ อันได้แก่ ช้าง ม้า วัว ควาย ซึ่งถูกนำมาไว้ใต้น้ำเพื่อให้เป็นที่อยู่ของปะการัง และยังเพิ่มชีวิตชีวาในการดำน้ำตื้นได้เป็นอย่างดี เมื่อเจ้าหน้าที่อธิบายวิธีการใช้อุปกรณ์การดำน้ำแล้ว ก็ได้เวลาสวมสน็อกเกิ้ลลงไปส่องโลกใต้น้ำ แหวกว่ายใกล้ชิดฝูงปลาที่พากันกรูเข้ามาต้อนรับ เราใช้เวลาดำน้ำกันอยู่หลายชั่วโมง ก็จำใจต้องบอกลาเหล่าปะการังและน้องปลา

หลังจากนั้นเรากลับไปเอนกายพักเอาแรงจวบจนเวลาบ่อยคล้าย เพื่อเข้าร่วมอีกกิจกรรมที่ไม่อยากให้พลาด เพราะที่บ้านคลองมาดนี้เองเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งของเกาะกูด เราออกเดินเปลือยเท้าเล่นริมหาด เพื่อให้เท้าได้สัมผัสผืนทรายเนื้อละเอียด ลมทะเลพัดมาปะทะกายพอให้เสื้อผ้าได้สะบัดพลิ้ว พอเดินทอดน่องจนหนำใจแล้วเราก็ หย่อนตัวนั่งบนสะพานไม้ที่ทอดยาวลงไปในทะเล ฟังเสียงคลื่นซัดเข้าหาฝั่ง มองวิวทะเลแบบพานอรามา ทางซ้ายมีทะเล ทางขวามีภูเขา แสงแดดค่อยเปลี่ยนเป็นสีทอง ดวงอาทิตย์ในวันนี้ก็ดูโตเป็นพิเศษ เหมือนกำลังชักชวนให้มาถ่ายรูปเก็บไว้อวดใครต่อใครว่าที่นี่ไงเกาะกูด พระอาทิตย์ค่อยๆ ลับขอบฟ้าอย่างช้าๆ พอฟ้ามืดลงกระเพาะก็เริ่มร้อง อีกอย่างที่แนะนำเมื่อมาถึงเกาะกูด คงจะเป็นอย่างอื่นไม่ได้นอกจากอาหารทะเลสดๆ รสอร่อย น้ำจิ้มรสเด็ด มีเมนูให้เลือกหลากหลาย แถมราคาสบายกระเป๋า เป็นมื้อแห่งวันพิเศษเติมเต็มความสุขให้สุดขีด

แสงแดดยามเช้าสาดเข้ามาในห้อง เตือนให้เราออกไปทักทายวันใหม่ เรารีบแหวกม่านเพื่อชมบรรยากาศริมทะเล แล้วเดินไปสูดอากาศเก็บไว้จนเต็มปอดก่อนจากลา แม้เวลาแห่งความสุขจะผ่านไปอย่างรวดเร็ว แต่ฉายา “อันดามันแห่งตะวันออก” ที่เคยมีคนตั้งให้ก็สมดั่งคำร่ำลือ เพราะด้วยความงดงามของธรรมชาติ บรรยากาศอันแสนจะเงียบสงบ กับอัธยาศัยไมตรีของผู้คน เกาะกูดจึงกลายเป็นดั่งสวรรค์ของคนรักทะเล ที่สร้างความประทับใจไม่รู้ลืม จนต้องหาโอกาสกลับมาเยี่ยมเยือนเกาะสวรรค์แห่งนี้อีกครั้ง

 

 

HUG MAGAZINE

ปีที่13 ฉบับที่ 4

พาหัวใจไปเที่ยว