เชื่อว่าหลายคนต้องเคยผ่านตาการ์ตูนของเขา ปุ๋ย เดวิล เจ้าของลายเส้นเอกลักษณ์และผลงานสยองขวัญผสมกลิ่นไอสิเน่หาให้จดจำ และต้องเคยเห็นมุกขำขันของสามีภรรยาบนหน้ากระดาษบ่อยครั้ง จะมีใครรู้ไหมว่าภรรยาคนนั้นมีตัวตนจริงโลดแล่นอยู่เคียงข้างสามีคนนี้เสมอมา วันนี้ปุ๋ย เดวิล จะนำเสนอการ์ตูนเรื่องพิเศษที่มีแค่เรื่องเดียว ที่พระพรหมเป็นผู้เขียน เขาและเธอเป็นตัวละครหลัก โลกใบนี้เป็นกระดาษวาดเรื่องราวแสนสนุกสนานมายี่สิบกว่าปี

 

 

แรกสะดุดตานารีข้ามถนน

เราเริ่มด้วยคำถามคลาสสิคว่าทั้งสองพบกันได้อย่างไร พี่ปุ๋ยหัวเราะก่อนเท้าความถึงความหลังเมื่อยี่สิบปีก่อนนี้ที่ยังสดในความทรงจำ

    “ผมเขียนการ์ตูนอยู่ ตอนนั้นเปลี่ยนที่พักไปเรื่อยเพราะอยู่แต่ในห้องเดิมๆ เขียนงานไม่ได้ ไปอยู่แถวประชานิเวศน์ ฝั่งตรงข้ามเป็นออฟฟิศของสถาบัน AFS ปกติเป็นคนตื่นเช้าอยู่แล้ว ชอบไปยืนที่ระเบียงดูถนนเงียบๆ ก็เห็นผู้หญิงคนหนึ่งวิ่งข้ามถนนไปทำงานในตอนแปดโมงทุกเช้า วิ่งเหมือนที่ทำงานห่างกันสิบกิโล (หัวเราะ) ทั้งที่ข้ามถนนก็ถึงแล้ว และเป็นแค่ถนนหมู่บ้าน ไม่ใช่ถนนหลวงที่กว้างกว่า แต่วิ่งเต็มเหยียดทุกเช้า จนผมต้องคอยดูทุกวัน ไม่เห็นไม่ได้ เหมือนขาดอะไรไป”

 

เรื่องจึงเดินตามสเต็ปรักที่พระพรหมลิขิตไว้ จากแค่ยืนดูก็เริ่มอยากรู้จัก แต่จะทำอย่างไร ถ้าไปขวางในตอนเช้าคงไม่ได้คุยกันแน่นอน พี่ปุ๋ยจึงคิดหากลวิธีในแบบตน ด้วยการนั่งเฝ้ารอนักวิ่งหญิงคนนั้นกลับมาที่อพาร์ตเม้นต์ และเมื่อเธอมา ชายหนุ่มก็แกล้งทำตัวบ้าๆ บอๆ ให้เธอตำหนิติเตียน หรือหาเรื่องคุยกับคนข้างล่างแถวนั้นเพื่อสืบข่าวของเธอ ค่อยๆ เข้าหา จนในที่สุดพี่สายพิณยอมหันมาพูดคุยกับหนุ่มนักวาดการ์ตูนที่ภายนอกผมยาวกระเซอะกระเซิงดูน่ากลัวคนนี้

     “ไปทักเลยไม่ได้ครับ อาจโดนแจ้งความได้ เพราะสารรูปตอนนั้นไม่น่าดูนัก (หัวเราะ)”

     “ก็เป็นเพื่อนกันก่อน พี่ปุ๋ยคิดไม่เหมือนคนอื่น นักเขียนจะมีจินตนาการ มีเรื่องประหลาดๆ มาเล่าให้ฟังอยู่ทุกวัน ไม่รู้เลยว่าเขามอง จนเขาถามว่าทำไมต้องวิ่ง นั่นสินะ ออกจากบ้านเร็วกว่านี้อีก 5 นาทีก็ไม่ต้องวิ่งแล้ว แต่เคยชิน ต้องวิ่ง (หัวเราะร่วน)”

ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตัดสินใจเลือกอีกฝ่าย คือการเปิดเผยธาตุแท้ตั้งแต่วันแรกที่เจอกันซึ่งหน้า

     “สมัยวัยรุ่น ย้อมสีใส่กันน่าดูเลย (ยิ้ม) บางคนไม่ได้ชอบสิ่งนี้ แต่หลอกตัวเอง หรือหลอกอีกฝ่ายว่าชอบเหมือนกัน สุดท้ายคืนร่างเดิม เหมือนผีเสื้อสมุทรในพระอภัยมณีที่ต้องคืนร่างจริง ถ้าคนเรารักกันตั้งแต่ร่างเดิม ก็จะไม่มีการคืนร่างอีกแล้ว มีแต่ดีขึ้น บางคนพยายามฝืนเอาไว้ แต่ร่างเดิมก็พร้อมจะคืนตัวอยู่ดี มารู้ทีหลังมันไม่สนุกเลยนะ ผมใช้ตัวจริงแสดงให้เห็นแต่แรก ไม่มีการเสแสร้งอะไร เมื่อเปิดตัวตนจริงแล้ว จากนั้นต้องถามกันว่าโอเคไหมกับแบบนี้ ถ้าไม่ตั้งแต่แรกก็จะไม่เจ็บ แต่ถ้าคบหาดูใจต่อได้ ก็ช่วยกันปรับปรุงให้ดีขึ้น”

 

แสดงจุดร่วม สงวนจุดต่าง

ข้อดีนั้นคนเรารับกันได้อยู่แล้ว แต่ข้อเสียล่ะ จะทำอย่างไร พี่ปุ๋ยกล่าวว่าถ้าไม่ใช่ข้อเสียที่ทำร้ายโลกนี้เกินไปนัก และสามารถแก้ไขได้ เขาก็โอเค ส่วนพี่สายพินพูดสั้นๆ ว่า “ทำใจ” พร้อมหัวเราะร่วน

     “เขาชอบดื่มเหล้ามาก่อนเจอเรา ก็ต้องจำยอม มีหน้าที่ซื้อให้ซะเลย ทำกับแกล้มให้ด้วย เขาก็กินในบ้านไม่ได้ไปไหน นานๆ จะออกไปข้างนอกสักที”

     “ผมเปลี่ยนเป็นการดื่มแบบที่ภรรยารับได้ ดื่มเป็นผู้เป็นคน ไม่ไปอาละวาดเมาสะเปะสะปะ เคยไหมที่เรายอมสิ่งที่ตัวเราไม่ชอบ แต่เป็นสิ่งที่คนที่เรารักที่สุดชอบ เพราะเรารักกัน และเมื่อทั้งคู่คิดเหมือนกัน ก็จะแย่งกันทำสิ่งที่อีกฝ่ายชอบ จนกลายเป็นฉันไม่ชอบแบบนี้ แต่ฉันแคร์เธอ ฉันเลยทำให้ได้ เมื่อแย่งกันทำสิ่งที่คนที่เรารักชอบ แบบนี้คุณอยู่ด้วยกันยันชาติหน้าเลย”

 

ฟังดูเรียบง่ายแต่ทำยากอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในยุคปัจจุบันที่คนเรายึดมั่นในอัตตาว่าสำคัญ สิ่งใดไม่ชอบจะไม่ยอมทำ ไม่ยอมลงให้แก่กันจนเป็นข่าวอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน พี่สายพินจึงอธิบายต่อด้วยคำง่ายๆ

     “เรารักตัวเองหรือเรารักเขา ถ้าเรารักตัวเองก็จะทำเพื่อตัวเอง แต่ถ้ารักเขา ก็จะทำเพื่ออีกคนได้ กลายเป็นต่างคนต่างทำให้กันและกัน”

พี่ปุ๋ยยังแถมท้ายด้วยว่า

     “ทำแล้วไม่ยากครับ เพราะจะเกิดความเคยชิน การได้เห็นคนที่เรารักดีใจ มีความสุข ก็พอละ (ยิ้ม) เคยรักใครมากๆ ไหม เมื่อรักมากแล้ว อย่างอื่นจะเป็นเรื่องรองหมดเลย

เราเหมือนได้คำตอบในใจ ชีวิตคู่ไม่ใช่การเพิ่มใครอีกคน แต่เป็นการลดตัวเองลงเพื่ออยู่ร่วมกัน เพื่อเป็น ‘เรา’ มากขึ้นนี่เอง

 

 เรื่องพิเศษแด่ศรีภรรยาที่รัก

แน่ละ ในฐานะคู่ชีวันขวัญชีวิตย่อมต้องมีเรื่องซาบซึ้งตรึงใจต่อกัน ซึ่งถ้าใครเคยได้อ่าน นั่นแหละคือการ์ตูนรักของปุ๋ย เดวิล ที่มีต่อสายพิน ภรรยาคนนี้

     “เรื่อง ‘จุดนัดพบ’ ครับ เป็นเรื่องสั้น งานจรรโลงสังคมในขายหัวเราะ ในเรื่องชายหญิงคู่หนึ่งจะเจอกันทุกร้อยปีที่เรือถีบรูปห่านกลางน้ำ เนื้อหาสื่อว่าทั้งสองไม่ใช่คน ในร้อยปีมีโอกาสเจอกันแค่หนึ่งครั้ง และมาเจอกันตรงนี้เท่านั้น เก็บความอยากคุยไว้มากมายมาร้อยปี แต่งตัวดีๆมาเจอกัน แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรมากนอกจาก ‘คิดถึงนะ รักเธอ’ พูดได้แค่นั้นเวลาก็หมดลง เธอก็ขึ้นไปอยู่บนสวรรค์ ผมก็ลงไปอยู่ยมโลก อีกร้อยปีค่อยเจอกันใหม่ ทั้งที่อยากพูดอะไรเยอะแยะแต่พูดได้แค่นั้น เพราะตลอดร้อยปีคิดถึงแต่เธอคนเดียว ในเรื่องผมเป็นนิรยบาล ส่วนเธอเป็นนางฟ้า และเธอเป็นนางฟ้าจริงๆ ของผม (ยิ้ม)”

เขาว่าคนเป็นนักเขียนพูดไม่เก่ง คงจะจริง เพราะพูดแต่ละคำด้วยน้ำเสียงเรียบสงบ แต่ตรงชัดเจนเสียจนไม่ต้องตีความอีก เพียงเท่านี้ก็รู้สึกถึงความจริงใจจนล้นพ้นแล้ว

 

การเอาชนะสิ่งยั่วยุ

ชีวิตคู่ต่อให้คนสองคนรักกัน ก็ย่อมมีเรื่องมากระตุ้นยั่วยุอยู่ตามรายทางให้ไขว้เขว พี่ปุ๋ยยกเพลง “ทะเลใจ” ของวงคาราบาวเปรียบเทียบว่าถ้าเข้าใจความหมายของเพลง ก็หักห้ามใจได้ไม่ยาก

     ”ถ้าไม่มีทะเลใจข้างในใจเรา ก็ไม่มีอะไรยั่วยุได้ ปฏิเสธทั้งหมดได้ และมีงานของบรมครูท่านหนึ่งที่ผมได้เคยอ่าน ท่านเขียนว่า ‘ถ้าบุญมี ชาติหน้าจะมาเชย’ ถ้าคิดได้แบบนี้จะไม่มีนอกใจ เพราะคุณเห็นคนนี้สวยนะ คิดไว้ชาติหน้าฉันจะมาเชย เพราะชาตินี้ฉันจะเชยเมียฉันคนเดียว ประโยคนี้ประทับใจผมมาก”

 

ด้วยรักและเป็นห่วง

พี่สายพินบอกว่า เรื่องน่าห่วงในตอนนี้มีแค่สุขภาพของสามีที่นอกจากดื่มเหล้า สูบบุหรี่แล้ว ยังเป็นโรค SLE เพราะเมื่อไรภูมิคุ้มกันมีปัญหา ใบหน้าก็จะเกิดรอยแผล เมื่อเราถามพี่ปุ๋ยบ้าง คราวนี้นักวาดการ์ตูนสยองขวัญก็ตอบชัดเจน

     “ไม่มีอะไรมากไปกว่าที่ว่าจะรักตลอดไป (ยิ้ม)”

เป็นคำรักซึ่งผู้ชายอีกหลายคนไม่กล้าพูด พี่ปุ๋ยกล่าวว่า ถ้าไม่กล้าพูดคำนี้ ก็ไม่ต้องกล้าพูดคำอื่นแล้ว

     “ที่จริงมันมีสองแบบ หนึ่งพูดบ่อยพร่ำเพรื่อ เจอสิบคนก็รักสิบคน พูดเช้าสายบ่ายเย็น พูดง่ายเกินไป ส่วนบางคนไม่พูดเลย ต่อให้รักแทบตายก็ไม่พูด เหมือนมีอะไรอุดปากไว้ แต่ถ้ามีรักจริง ถึงพูดยากแต่จะพูดครั้งเดียว ไม่พูดบ่อย คำนี้เป็นคำขลัง จะพูดเล่นไม่ได้ เพราะนอกจากเราแล้วยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายเป็นพยานด้วย ต้องรับผิดชอบคำพูดตัวเอง”

 

บทเรียนมีไว้จำและพัฒนา

ชีวิตคู่เปรียบเหมือนลิ้นกับฟัน เมื่อใกล้ชิดกันก็ต้องกระทบกระทั่งกันเป็นธรรมดา หลักที่ทั้งคู่ใช้คือ ต่างคนต่างแยกย้ายไปทำสิ่งอื่น รอให้อารมณ์เย็นแล้วค่อยกลับมาคุยกันใหม่ ถ้าต่างระบายอารมณ์ใส่กัน ก็มีแต่พังเท่านั้น

         “ถ้าไม่จำข้อเสีย ก็จะจำแต่สิ่งที่ดี ช่วยลดปัญหาการทะเลาะเบาะแว้งเลิกรากัน ถ้าไปขุดความจำที่ไม่ดีมาก็ยิ่งมีปัญหา ให้จำแต่สิ่งดีดีกว่า พอถึงเวลาทะเลาะกัน ก็จะนึกถึงภาพดีๆ ว่าเขาเคยคุยกับเราแบบนี้ เคยทำให้แบบนั้น ทุกอย่างจะเบาลง”

พี่ปุ๋ยยังเสริมด้วยว่าถึงมองข้ามแต่ก็พยายามแก้ข้อเสียของกันและกัน แม้ต้องใช้เวลา แต่ถ้าแก้ไขจนหมด สักวันข้อเสียจะหายไป เหลือแต่ข้อดี พี่สายพินจึงบอกข้อดีของสามีคนนี้ให้ฟังด้วยน้ำเสียงจริงจังแจ่มชัด

     “พี่ปุ๋ยเป็นคนดีมาก (ย้ำ) เป็นคนอารมณ์เย็น ต่างจากเราที่เป็นคนโผงผาง คิดอะไรพูดเลย พี่ปุ๋ยเป็นคนพูดหวาน พูดเพราะ เป็นคนเสมอต้นเสมอปลาย ถ้าบอกว่าดีไปหมดทุกอย่างคงเว่อร์ (หัวเราะ) เพราะส่วนที่ไม่ดีมันเล็กน้อยเกินกว่าจะมาจดจำหรือมองเห็น ถ้าให้เกรดคือเอ+ (ยิ้ม)”

ฮั่นแน่ ในที่สุดก็ได้ยินคำหวานจากสาวปากแข็งบ้างแล้ว

 

การเลือกคู่ชีวิตที่ไม่ปรากฏในตำรา

เมื่อเรื่องชีวิตคู่ไม่มีสอนในสถานศึกษา นอกจากใช้ชีวิตเป็นตัวเรียนรู้ เราจึงถามทั้งสองในฐานะผู้มีประสบการณ์มาก่อน

     “ถ้าเขาทนข้อเสียของเราได้ และคนคนนั้นจะลดข้อเสียของเขาเองเพื่อให้คนที่ตัวเองรักมีความสุข อย่างที่บอก ถึงจะไม่ชอบแต่ก็ทำถ้าสิ่งนั้นเป็นสิ่งที่คนเรารักชอบครับ ถ้าคนคนนั้นทำในสิ่งที่เกลียดเพื่อเราได้ โอเคเลย หนังฝรั่งฉากแต่งงานผมชอบนะ เวลาที่บาทหลวงพูดคำสาบานให้เกียรติกัน จะรักและซื่อสัตย์ในยามชราและยามป่วยไข้ ดีมากๆ ใช่เลย ไม่ใช่ว่าพอทุกข์แล้วต่างคนต่างไป หรือถูกหวยแล้วเอาเงินไปด้วย”

แล้วพี่สายพินล่ะ จะมีคำแนะนำว่าอย่างไร

     “การมาเป็นคู่กันได้ ชาติที่แล้วเราทำบุญกรรมอะไรร่วมกันมา บางทีมีแฟนหลายคนแต่ทำไมไปไม่ถึงจุดแต่งงาน ถ้าอยากมีคู่ที่ดี ทำบุญเยอะๆ ให้ไปในที่ดีๆ อย่าไปในที่อโคจร คนเราต้องศีลเสมอกัน ถึงจะอยู่ด้วยกันได้ อย่าไปฝืน เพราะอะไรที่ไม่ใช่ของเรายังไงก็ไม่ใช่ อย่าเปลี่ยนตัวเราเพื่อใครสักคน แต่เป็นตัวเราที่พร้อมจะรักเขา เสียสละให้เขา ไม่ใช่อยากได้เขาเลยเปลี่ยนตามเขา ตราบใดที่เรารักคนอื่นมากกว่าเราเอง เราจะให้แหละ แต่ถ้ารักตัวเองมากกว่าก็จะเอาตัวเองเป็นหลักเท่านั้น จริงอยู่ที่คนส่วนใหญ่บอกว่าต้องรักตัวเองก่อน แต่ถ้าคุณจะเป็นครอบครัวกันแล้ว ถ้ายึดเอาแต่ตัวเอง มันก็ไม่ใช่ครอบครัว”

 

เรื่องนี้เป็นการ์ตูนแนวไหน

ก่อนจากกันเราถามปุ๋ย เดวิล ยอดนักวาดคนนี้ถึงการ์ตูนเรื่องราวชีวิตรักยี่สิบกว่าปีที่ผ่านมา

“น่าจะคอมเมดี้ แต่เชื่อไหมว่าพล็อตเดียวกันจะเป็นคอมเมดี้ แอคชั่น เขย่าขวัญได้หมด เรื่องนี้ของผมคงสามารถเปลี่ยนพล็อตได้มากมายแต่เนื้อหายังคงเดิม และชื่อเรื่องคือ ‘จะรักตลอดไป’”

เป็นเรื่องที่เรารอจะได้อ่านในลายเส้นของปุ๋ย เดวิลสักครั้งจริงๆ.

 

 

HUG Magazine

รักไม่รู้จบ

มาศวดี ถนอมพงษ์พันธ์