รักไร้เงื่อนไขในมิติใหม่แบบฉบับ ‘อารียา เมตตายา’            เป็นอย่างไร? :  รักไร้เงื่อนไข-รักนี้มีแต่ให้

เรื่องโดย: Wonder Wanners 

_________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________

 

ฉบับนี้ Wonder Wanners ขอเล่าถึงหัวข้อหนึ่งของความรักที่มีนัยในเชิงจิตวิญญาณ คือ ความรักไร้เงื่อนไข (unconditional love) หากแปลตรงตัวเลยคือ การรักใครสักคนอย่างไม่มีเงื่อนไขใด การได้รับรักตอบแทนจากคนที่เรารัก แต่จริงๆ แล้วรักไร้เงื่อนไขมีความหมายลึกซึ้งกว่านั้น ต้องอาศัยประสบการณ์ที่เกิดขึ้นกับตนเองโดยตรงจึงจะเข้าถึงความหมายนี้ได้

โดยธรรมชาติของมนุษย์ เวลาทำอะไรมักหวังผลตอบแทนเสมอ เช่น ทำบุญเยอะๆ เพื่อหวังขึ้นสวรรค์ ถ้ามนุษย์ไม่เห็นสิ่งที่จะได้เป็นผลตอบแทนก็มักจะไม่ทำ

 

ความรักก็เช่นกัน Social Exchange Theory คิดค้นโดย Thibaut และ Kelley (1959) เป็นหนึ่งในทฤษฎีใหญ่ทางจิตวิทยา ที่อธิบายถึงการคงอยู่ของความสัมพันธ์ โดยวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างคนสองคน จากมุมมองของบุคคลหนึ่ง (เช่น ประเมินความสัมพันธ์กับภรรยาว่าจะอยู่หรือหย่า จากมุมมองของสามี) แล้วชั่งน้ำหนักระหว่างการสูญเสีย (cost) และ ประโยชน์ (benefits) ว่าอันไหนมากกว่ากัน ถ้าอยู่ด้วยกันแล้วเสียใจมากกว่าที่จะมีความสุขก็หย่ากัน แต่มีความสุขมากกว่าเจ็บปวดใจ ความสัมพันธ์ก็ดำเนินต่อไป เห็นไหมว่าแม้แต่ความรักยังต้องตอบแทนกันจึงจะอยู่ด้วยกันได้

 

 

ในทางจิตวิทยากล่าวถึงเรื่องรักไร้เงื่อนไขไว้ เช่น ความเอื้ออาทร (altruism) หมายถึง การที่ใครคนหนึ่งทำประโยชน์ให้แก่ผู้อื่นโดยไม่หวังผลตอบแทน เกิดจากความสมัครใจโดยไม่คาดหวังรางวัลจากภายนอก ปรากฏการณ์แบบนี้มีในหมู่จิตอาสาต่างๆ เช่น อสม. (อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน) หรือมูลนิธิต่างๆ 

แม้นักจิตวิทยาหลายๆ ท่านอาจเกิดข้อกังขาว่า altruism มีจริงหรือไม่ ในยุคนี้ดูเหมือนความเอื้ออาทรแบบนี้ไม่น่ามี แต่มันก็ยังคงมีอยู่แม้จะเพียงน้อยนิด 

ความรักไร้เงื่อนไขนั้นมีคำจำกัดความไว้ต่างๆ นานา ฉบับนี้ Wonder Wanners ขอกล่าวถึงความรักในมิติใหม่ที่ได้รับแนวคิดมาจากหนังสือ Areeya Metaya (อารียา เมตตายา) ที่นำเสนอไว้อย่างน่าสนใจ

 

ความรักมีทั้งหมด 4 ระดับ

+  ระดับที่ 1 คือ ความรักที่มอบให้คนที่ด้อยกว่าหรืออะไรก็ตามที่เรารู้สึกว่าต่ำกว่า เช่น คนหรือสัตว์ที่กำลังตกทุกข์ได้ยาก แล้วเราสามารถหยิบยื่นความช่วยเหลือให้อย่างง่ายดาย

ระดับที่ 2 คือ ความรักที่มอบให้คนที่เสมอกับเรา บุคคลระดับนี้เราสามารถพบเจอได้ทั่วไปในชีวิตประจำวัน เช่น ลูกค้า เพื่อนร่วมงาน คนข้างบ้าน หรือแม้กระทั่งเพื่อนร่วมโลก

+  ระดับที่ 3 คือ ความรักที่มอบให้คนที่เหนือกว่าเรา มีความเป็นอยู่ที่ดีกว่า หรือการร่วมแสดงความยินดีที่เขานั้นมีสิ่งที่ดีกว่าเรา มีความสุขที่เห็นคนอื่นมีชีวิตดีกว่าเราจากใจจริง

ระดับที่ 4 คือ ความรักที่มอบให้แก่ศัตรู รักแบบบริสุทธิ์ใจ รักแบบไร้เงื่อนไข ให้อภัยได้ในทุกกรณี รักระดับนี้ยากที่สุด เช่น พระพุทธเจ้าผู้เปี่ยมด้วยความรักและเมตตา ปรารถนาให้สรรพสิ่งที่มีชีวิตได้พ้นทุกข์ รักและไม่เคยถือโกรธแม้แต่ผู้ที่คิดร้ายต่อพระองค์ เช่น พระเยซูผู้ถูกตรึงที่ไม้กางเขน เพื่อชำระบาปให้มนุษย์ จึงยอมโดนทำร้ายจนถึงแก่ชีวิต

 

 

การจะรักไร้เงื่อนไขได้ตามหนังสือ Areeya Metaya นั้นต้องรักถึงระดับที่ 4 ตัวอย่างหนึ่งของรักไร้เงื่อนไขที่ใกล้ตัวมากที่สุด คือ ความรักของพ่อแม่ที่รักเราในทุกๆ สภาวะของชีวิต ไม่ว่าเราจะไม่สวย ไม่หล่อ ไม่ฉลาด ไม่ประสบความสำเร็จ นิสัยไม่ดี เกเร พวกเขาก็รักเราและให้ทุกอย่างโดยไม่มีเงื่อนไข เป็นที่พึ่งพาที่ดีและนำทางให้เราให้ทำแต่ความดีงาม

 

ความตั้งใจของผู้เขียนในปักษ์นี้ ปรารถนาให้ผู้อ่านได้สัมผัสมิติใหม่ของความรักที่สูงส่งและล้ำลึกท่ามกลางวิกฤติต่างๆ สิ่งเดียวที่โลกยังคงสวยงามและดำเนินต่อไปได้ คือ การมอบความรักให้แก่ผู้อื่นอย่างไร้เงื่อนไข แม้คนนั้นจะเป็นศัตรูของเรา โดยเริ่มจากตัวเราเป็นผู้ให้ก่อนอย่างไร้เงื่อนไข คนที่มีความสุขคนแรกคือคุณ ลองฝึกทำกันดูนะคะ มันไม่ง่ายแต่ไม่ยากเกินวิสัย เพราะทุกคนมีความรักในหัวใจอยู่แล้ว

ขอให้ทุกคนมีความสุขกับความรักค่ะ