6 บิวตี้ไอเท็มตัวช่วยเติมสีสันให้ผิวสวย

 

แม้ช่วงนี้สาวๆ หลายคนเลือกที่จะไม่แต่งหน้า เพราะไหนๆ ก็ต้องใส่หน้ากากอนามัยปิดไว้อยู่ดี

อยากบอกว่า อย่าละเลยการบำรุงผิวและแต่งแต้มสีสันให้ใบหน้าบ้าง

เพราะอย่างน้อยตอนกินข้าวแล้วต้องถอดหน้ากากจะได้ไม่โป๊ะ

เดี๋ยวหาว่าแอดมิน Hug magazine ไม่เตือน ,,^_^,,

 

01

Kate Icy Rose Shadow

ราคา 390 บาท

อายแชโดว์ลวดลายดอกกุหลาบเรียงซ้อน 3 สี พร้อมกลิตเตอร์ดุจกลีบกุหลาบที่มีประกายหิมะ

มีให้เลือก 2 สี ทั้งกุหลาบสีมิ้นท์และลาเวนเดอร์

02

Laneige Radian-C Cream

ราคา 1,800 บาท

ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้า Radian-C ช่วยลดเลือนจุดด่างดำ แม้แต่จุดเล็กที่สุดในชั้นผิว

เผยผิวสว่างใส เปล่งประกายเจิดจรัส ครีมบำรุงที่ช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้น

 

 

03

Tarte Big EgoTM Sketch & SetTM Brow Pencil & Tinted Gel

ราคา 900 บาท

ดินสอเขียนคิ้วแบบ ทู-อิน-วัน ที่มีสองหัวในแท่งเดียว ปลายแหลมเรียวและหัวแบบเจล

ให้คิ้วของคุณดูสวยเฉี่ยวยาวนานสูงสุด 12 ชั่วโมง

 

 

04

Nars Overlust Cheek Palette

ราคา 2,500 บาท

พาเลตต์แต่งแก้มรุ่นพิเศษ มีจำนวนจำกัด ประกอบไปด้วยบลัชสามเฉด

กับไฮไลท์สูตรนวัตกรรมเนื้อเจล-แปรรูปเป็น-เนื้อแป้งสามโทนสี

 

05

Too Faced Born This Way The Natural Nudes Complexion Inspired Eyeshadow Palette

ราคา 1,850 บาท

ผสานคุณค่าจาก coconut water, alpine rose และ Hyaluronic acid

สีสวยเด่นชัด ทาติดได้ในครั้งเดียว เกลี่ยง่าย

 

 

06

Elixir Jeunesse Liquid Day Care City Detox

ราคา 1,390 บาท

มอยเจอร์ไรเซอร์เนื้อลิควิดบางเบา ช่วยฟื้นฟูและปกป้องผิวด้วยสารสกัดจาก Moringa Seeds

ช่วยเสริมประสิทธิภาพในการดีท็อกซ์ผิวได้ดียิ่งขึ้น

 

นอกจากต้องดูแลสุขภาพร่างกายแล้ว สาวๆ อย่าลืมดูแลผิวพรรณด้วยนะ

อย่างน้อยก็ใช้โอกาสในวันที่ต้องกักตัวอยู่บ้านมาดูแลตัวเองกันค่ะ

Credit

01 https://www.kate-global.net/th/pickup/icy_series/

02 https://www.laneige.com/th/th/product/radian-c-cream.html

03 https://tartecosmetics.com/en_TH/makeup/eyes/eyebrows/sketch-set-brow-pencil-tinted-gel/1849.html

04 https://www.narscosmetics.com/USA/overlust-cheek-palette/0607845014157.html

05 https://www.toofaced.com/product/23483/73023/eye-makeup/eye-shadow-palettes/born-this-way-the-natural-nudes-eye-shadow-palette/complexion-inspired-eye-shadow-palette

06 http://www.yves-rocher.co.th/product/all-skin/360/Elixir-Jeunesse-City-Detox-Liquid-Day-Care-50-ml-?lang=th_TH


"รัก" ทั้งทีต้องมี "ความกล้า"

I N T R O

/ ความสัมพันธ์ไม่ว่าในรูปแบบคนใกล้ชิดภายในครอบครัว หรือแม้กระทั่งมีระยะห่างภายใต้รูปแบบ

ของคนในสังคม ล้วนก่อร่างสร้างขึ้นด้วยหลากหลายองค์ประกอบ

 

เพียงความสัมพันธ์ในสถานะคนรักก็มีหลากหลายแง่มุมให้เรียนรู้ไม่รู้จบ ประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจ

และควรฝึกฝนคือ “ความกล้า” เพราะหากลองพินิจพิเคราะห์ให้ดี การที่ใครคนหนึ่งจะเริ่มต้น

ความสัมพันธ์ได้ล้วนต้องอาศัยความกล้า หากระหว่างทางเดินแห่งรักนั้นมีอุปสรรคยังต้องอาศัย

ความกล้าในการตัดสินใจบางเรื่องอย่างทันท่วงที หรือแม้กระทั่งเมื่อความรักมาถึงทางตัน คุณก็ควร

มีความกล้ามากพอที่จะบอกเลิก เพราะนั่นอาจเป็นหนทางที่ดีกว่าการเหนี่ยวรั้งกันไว้ในวันที่คุณไม่มี

ความรักมอบให้กันอีกต่อไปแล้ว

 


 

อย่ามัวแต่กลัวจนสูญเสียความสุข

ความกล้าไม่ใช่การปราศจากความกลัว แต่คือการมุ่งไปแม้จะมีความกลัวอยู่เต็มหัวใจ”

นับเป็นความจริงที่ควรทำความเข้าใจ เพราะเมื่อความกลัวครอบงำจิตใจหากมัวแต่ขจัดสิ่งนั้น

ให้สิ้นไป อาจส่งผลให้คุณสูญเสียช่วงเวลาแห่งความสุขไปก็เป็นได้

 

สิ่งที่ควรทำคือ ค่อยๆ เพิ่มความกล้าเข้าไปทีละน้อย บอกกับตัวเองหน้ากระจกในทุกเช้าที่

ลืมตาตื่นมาว่า “วันใหม่มาเยือนแล้ว ภายใต้แสงอาทิตย์ของวันนี้ ไม่มีอะไรที่เราทำไม่ได้” และเมื่อ

แสงตะวันลาลับขอบฟ้า ยามที่ล้มตัวลงนอน ทันทีที่เริ่มหลับตา ขอให้คุณทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นตลอด

ทั้งวัน อีกสิ่งสำคัญคือลองจินตนาการถึงสถานการณ์หรือเรื่องราวที่อยากให้เกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้

หรืออนาคตอันใกล้

 

หลายคนอาจมองว่าวิธีข้างต้นเป็นความเพ้อเจ้อ แต่นั่นอาจช่วยให้คุณรับรู้ถึงความต้องการ

ที่แท้จริงของตนเอง และสิ่งที่คุณได้กลับมาเป็นของแถมคือความกล้าที่เพิ่มมากขึ้นด้วย เพราะ

เหนือสิ่งอื่นใดไม่ใช่การที่เราขาดเป้าหมาย แต่ความกลัวที่จะลงมือทำต่างหากที่ฉุดรั้งคุณจาก

ความสำเร็จในทุกเรื่องของชีวิต

 

Fear is not real. The only place that fear can exist is in
our thoughts of the future. It is a product of our imagination

ความกลัวไม่ใช่ความเป็นจริง สถานที่เดียวที่ความกลัวสามารถอาศัยอยู่ได้
คือความคิดฝันเฟื่องไปในอนาคตมันเป็นแค่ผลลัพธ์ของจินตนาการที่เราสร้างขึ้น

ประโยคหนึ่งจากภาพยนตร์เรื่อง After Earth (2013)

 


 

กลัวความมืดต้องเข้าไปในที่มืด

บางคนกลัวความมืดมิดเพราะมองไม่เห็นสิ่งใดราวกับดวงตานั้นมืดบอด แต่สิ่งที่ก่อให้เกิด

ความกลัวนั้นคือจิตใจที่จินตนาการต่อไปได้ไม่ที่สิ้นสุด ความรักก็เช่นกันหากคุณไม่กล้าเริ่ม

มัวแต่คิดไปเองว่า เขาคงมีแฟนแล้ว หรือเขาคงไม่ชอบเรา การเลิกราก็เช่นกันหากคุณไม่กล้าบอกเลิก

เพียงเพราะเสียดายวันเวลาที่คบหากันมา ก็ไม่ต่างอะไรกับการคิดไปต่างๆ นานาว่า มีผีในห้องมืด

 

เอมี่ คัดดี้ เคยพูดหัวข้อ Power Posing ในงาน TED talks ว่า

เราสามารถลดความวิตกกังวลได้ โดยการเชื่อมั่นในตัวเอง
มองหาสิ่งที่มีคุณค่าที่สุดในตัวเอง
และใช้มัน

จงถามและย้ำกับตัวคุณเองว่า

คุณชอบอะไรและอะไรที่มีคุณค่าที่สุดในตัวคุณ

ทั้งหมดนี้เรียกว่า Self-Affirmation หรือการยืนยันในตัวเอง

 

การยืนยันตัวเองช่วยเตือนให้เรารู้ว่า ถึงแม้เราจะไม่ได้ผลลัพธ์ตามที่คาดหวัง แต่เราก็ไม่จำเป็น

ต้องจมปักอยู่กับสิ่งนี้ตลอดเวลา เรายังสามารถออกไปหาสิ่งใหม่ๆ ทำ สิ่งที่เราอยากเรียนรู้ เพราะเรา

รู้ว่าตัวเองมีข้อดีอะไร สามารถทำอะไรได้บ้าง เรายังคงเป็นคนสนุกสนานได้อย่างที่เคยเป็นมา และ

มั่นใจว่าจะไม่อ่อนแอหรือเปราะบางอย่างที่ตัวเราเองเคยคิดไว้อีกต่อไปแล้ว สิ่งเหล่านี้ถึงจะช่วยทำให้

เรามีความมั่นใจแบบที่เราไม่เคยเป็นมาก่อน

 


 

ในชีวิตหนึ่งทุกคนต่างมีบางเรื่องราวซ่อนอยู่ในส่วนลึกของใจ จนบางครั้งเราไม่กล้าแม้กระทั่ง

ตั้งคำถามกับตัวเอง ไม่กล้าป่าวประกาศให้ใครรับรู้ ไม่กล้าแม้แต่จะนึกถึง ความกลัวนั้นน่ากลัวเกินกว่า

จะคาดเดา จนกลายเป็นความคิดที่เกาะกุมจิตใจว่ามันคงเป็นไปไม่ได้ แต่สุดท้ายกลายเป็นว่าคำถาม

เหล่านั้นเองเป็นสิ่งที่เราควรทำมากที่สุด

 

กล่าวได้ว่าความกลัวหยุดยั้งเราไม่ให้ก้าวไปข้างหน้า หลายต่อหลายคนมีความตั้งใจดีแต่กลับ

ด้านชาทางความรู้สึกและไม่เริ่มลงมือทำเพียงเพราะความกลัวที่ฝังลึกภายในจิตใจ อุปสรรคที่

ถูกสร้างขึ้นนั้นหาใช่จากใครอื่น มีเพียงเราที่ฉุดรั้งมันไว้เอง สิ่งที่เราขาดอาจไม่ใช่เป้าหมาย

แต่เป็นความกล้าที่จะจ้องตากับความกลัวต่างหาก

 

Hug magazine ปีที่ 12 ฉบับที่ 5 (15 เม.ย.-14 พ.ค. 2563) ปก: แจ๊คกี้-ชาเคอลีน มึ้นช์


แหล่งข้อมูล

ณภัทร สงวนแก้ว. ความกล้าไม่ใช่การปราศจากความกลัว แต่คือการมุ่งไปแม้จะมีความกลัวอยู่เต็มหัวใจ. สืบค้นเมื่อ 16 มีนาคม 2563, จาก http://news.se-ed.com/?p=2600

Ungkana kertthongmee. 5 วิธีเสริมความกล้าเพื่อลาขาดความสัมพันธ์ยอดแย่. สืบค้นเมื่อ 16 มีนาคม 2563, จาก https://www.istrong.co/single-post/5-Way-cut-off-relations

นักจิตวิทยาเผย วิธีเพิ่มความมั่นใจอย่างรวดเร็ว เมื่อคุณรู้สึกประหม่า. สืบค้นเมื่อ 16 มีนาคม 2563, จาก https://sumrej.com/boost-your-confidence-7-2016/


รักควรใช้ “สมอง หัวใจ และสติ”

 

I N T R O

คุณเคยเฝ้าถามตัวเองไหมว่า เมื่อความรักบังเกิดขึ้นภายในใจ
คุณรักเขาหรือเธอคนนั้นเพราะอะไร
เชื่อว่าคนส่วนใหญ่คงปล่อยใจไปกับความรู้สึก
ที่กรุ่นด้วยความสุข ณ ช่วงเวลานั้น
มากกว่าจะถามหาเหตุผลกลไกทางความรักให้ซับซ้อน
ก็เพราะรักไปแล้วจะมัวแต่ถามหาที่มาของความรู้สึกดีๆ
ที่อบอุ่นหัวใจแบบนี้ทำไม มาใช้เวลาแห่งความสุขนี้ให้คุ้มค่าดีกว่า

 


 

รักก็คือรัก หาเหตุผลไปก็เท่านั้น คนมันมีใจผูกพันแล้วจะให้ทำยังไง

กลับตัวก็ไม่ได้ ให้เดินต่อไปน่าจะพอมีหวัง เหมือนเห็นแสงไฟสีชมพูเรืองๆ

อยู่ปลายอุโมงค์ที่มีซุ้มดอกไม้และเห็นภาพเขารางๆ ยืนใส่ชุดทักซิโด้รออยู่

แบบนี้เรียกเพ้อฝันจนเห็นภาพลวงตา อย่างที่ชาวทวิตเตอร์เปรียบเปรยว่า

“ใจเย็นๆ นะ วางถุงกาวในมือลงก่อน” (ฮ่าๆ)

 

รักที่ใช้แค่ความรู้สึกนำทางเท่านั้น หากมองถึงความสัมพันธ์ระยะยาว

คงเป็นไปได้ยาก แต่รักที่เต็มไปด้วยเหตุผลโดยไม่มีความรู้สึกเจือปน

จะเรียกว่ารักได้อย่างไรกัน

 

แล้วความรักควรใช้เหตุผลหรือความรู้สึกนำทางกันแน่?

 


 

เราทุกคนคือเชฟผู้ปรุงรัก

ทุกความสัมพันธ์ประกอบด้วยหลากหลายความรู้สึกและเหตุผลนานัปการระคนกัน

หากเปรียบรักเฉกเช่นการปรุงอาหารอาจช่วยให้เห็นส่วนประกอบของเหตุผลและความรู้สึก

ที่คลุกเคล้ากับความรักได้ดีขึ้นบ้าง เมื่อคุณคือเชฟผู้มีหน้าที่ออกแบบและปรุงรสอาหารให้กลมกล่อม

ด้วยส่วนประกอบชั้นดีที่มีอยู่ในครัวควบคู่กับรสมือและการเอาใจใส่อย่างพิถีพิถัน

ความรักก็เช่นกัน คุณสามารถปรุงรักให้ครบรสได้ด้วยส่วนผสมต่างๆ ดังนี้

 

  • ระลึกเสมอว่านี่คือคนรัก

รู้อย่างนี้แล้วคุณจะตั้งใจและใส่ใจทำให้ความรักครั้งนี้พัฒนาไปไกลยิ่งขึ้น

 

  • เริ่มด้วยความมุ่งมั่น

ส่วนผสมแรกคือความมุ่งมั่น เพื่อให้คนรักรู้ว่าคุณจริงจังและจริงใจกับเขามากแค่ไหน

 

  • อารมณ์ขัน

ไม่ต้องทำให้เขาหัวเราะจนท้องคัดท้องแข็ง แค่เขารู้สึกสบายใจเมื่ออยู่กับคุณก็พอ

คนที่มีอารมณ์ขันมักไม่ค่อยคิดเล็กคิดน้อย แถมยังสนุกกับการแก้ปัญหาด้วย เชื่อว่าคนรักของคุณ

จะปลาบปลื้มมากแน่ๆ

 

  • ความเข้มข้น

อย่าทำให้รักจืดชืดเป็นน้ำยาเย็น คุณควรหมั่นสร้างบรรยากาศดีๆ อยู่เสมอ เพราะรักที่เริ่มจืดจาง

ย่อมนำมาซึ่งการปล่อยปละละเลยกัน

 

  • อย่ากินหมดทุกอย่าง

ความรักก็เหมือนอาหารที่มีทั้งคุณและโทษ ดังนั้นจงเลือกเฉพาะของที่มีประโยชน์ อะไรที่ไม่ดี

ก็ไม่ต้องกิน เช่นเดียวกับอดีตที่เลวร้ายหรือความผิดพลาดครั้งก่อน ทิ้งมันไว้แล้วเลือกจดจำแต่สิ่งที่ดี

 

  • ความเชื่อใจและความซื่อสัตย์

จงปรุงรักด้วยหัวใจ ซื่อสัตย์ใส่ใจเลือกสรรวัตถุดิบชั้นเยี่ยม แม้คนกินจะไม่รู้ว่าคุณทำความสะอาด

วัตถุดิบก่อนปรุงหรือไม่ อย่าให้คนรักต้องคอยตรวจสอบทุกขั้นตอน แต่จงทำให้เขามั่นใจว่าคุณซื่อสัตย์

ทั้งต่อหน้าและลับหลัง

 

  • กลั่นกรอง

วัตถุดิบบางอย่างนั้นเราจำเป็นต้องกลั่นกรองหรือแยกส่วนที่ไม่ดีออกก่อน ความรักก็เช่นกัน

ไม่ต้องคิดมากจนเกินเหตุหรอก อะไรที่ทำให้ชีวิตรักของคุณแย่ก็แค่ขจัดมันทิ้ง

 

 

  • ความหวาน

ไม่ใช่ทุกเมนูที่ต้องการความหวาน ความรักก็ไม่ต้องเติมหวานตลอดเวลา แต่ต้องรู้ว่าเวลาไหน

ควรสวีทจู๋จี๋กุ๊กกิ๊กกัน เหมือนกับการทำอาหารที่ต้องรู้ว่าเมนูไหนควรหวานนำหรือตัดเลี่ยนด้วย

รสเปรี้ยว

 

  • ความร้อนเหมือนแรงขับเคลื่อน

แต่ละเมนูนั้นใช้ความร้อนไม่เท่ากัน อาจด้วยไฟอ่อนๆ แล้วค่อยๆ เร่งให้แรงขึ้น ความรักก็เช่นกัน

ต้องรู้ว่าเวลาไหนควรจริงจังหรือผ่อนคลาย ที่สำคัญคืออย่าให้ไฟรักมอดเป็นพอ

 

  • อิสระ

ในตำราอาหารอาจระบุให้ใส่ส่วนประกอบใดกี่ช้อนชาหรือช้อนโต๊ะ แต่ใช่ว่าทุกคนบนโลกใบนี้

จะถูกปากกับสูตรนั้น จงเลือกปรุงแบบที่คุณชอบกินดีกว่า เหมือนกับความรักที่คุณต้องเข้าใจเขาด้วย

อย่าปรุงเฉพาะรสที่คุณกินได้ แต่ต้องทำให้คนรักกินได้ด้วย และหากคุณกินคละรสก็อย่าบังคับ

ให้เขากินจานเดียวกับคุณ ให้เขามีอิสระได้เลือกตามใจชอบบ้าง

 

  • ความสดใหม่

อาหารจะอร่อยหากใช้วัตถุดิบสดใหม่ ความรักก็เช่นกัน อย่าให้ความเบื่อหน่ายเข้ามาแทนที่

สรรหาสิ่งแปลกใหม่ทำบ้างเพื่อให้ความรักของคุณมีชีวิตชีวายิ่งขึ้น

 

  • กลิ่น

แม้อาหารจะดูน่ากินแค่ไหน แต่หากว่ากลิ่นแรงหรือเหม็นก็คงไม่มีใครอยากลิ้มลอง คุณเองก็ต้อง

รู้จักดูแลตัวเองให้ดูดีด้วย ประพรมน้ำหอมเล็กน้อยเพื่อเพิ่มเสน่ห์ดึงดูดทางหนึ่ง

 

  • ความพอดี

คนเรากินได้เท่าที่อิ่มแค่นั้นแหละ ต่อให้มีอาหารหรูหราน่ากินได้มากมายแค่ไหนก็ใช่ว่าจะกินหมด

ความรักก็เช่นกัน ความพอดีจะทำให้ความรักของคุณค่อยเป็นค่อยไป

 

  • เห็นคุณค่า

ข้อสุดท้ายเมื่อใส่ส่วนผสมทุกอย่างคลุกเคล้ากันแล้วก็ต้องเห็นคุณค่าของอาหารจานนั้นด้วย

กว่าจะได้วัตถุดิบแต่ละอย่างหรือกว่าจะได้รสชาติที่กลมกล่อมก็ต้องผ่านการลองผิดลองถูก

มาหลายครั้ง อย่ากินทิ้งกินขว้างหรือไม่เห็นคุณค่า เหมือนกับความรักของคุณนั่นแหละ กว่าจะถึงวันนี้

ก็พบพานเรื่องราวมากมาย อย่าปล่อยมือจากกันเพียงเพราะคุณเจออาหารจานใหม่ที่อร่อยกว่า

เพราะใช่ว่าอาหารทุกประเภทจะเหมาะกับคุณเสมอไป

 

นี่เป็นเพียงส่วนผสมบางอย่างของสูตรรักเท่านั้น แต่หากคุณมีหลักของการปรุง

เชื่อว่ารักของคุณย่อมกลมกล่อมด้วยเหตุผลและความรู้สึก และไม่เอนเอียงไปทางใดทางหนึ่ง

เพราะรักอาจเริ่มต้นด้วยใจ แต่การประคับประคองรักในบางครั้งก็ต้องใช้เหตุผลควบคู่กันไปด้วย

 


 

รักอย่างไรไม่ไร้ “สติ”

“ความรักอาจไม่มีเหตุผล แต่จงมีเหตุผลเมื่อรู้ว่าเขาไม่รัก”

เป็นความจริงที่อย่ามัวเสียเวลาหาเหตุผลในวันแรกรัก จนลืมซึมซับบรรยากาศแห่งความสุข

แต่เมื่อวันแห่งการเลิกรามาเยือน คุณควรหาเหตุผลส่วนตัวเพื่อประกอบการเลิกราในครั้งนั้น

แต่อย่าเฝ้าถามหาเหตุผลจากอีกฝ่าย เพราะเชื่อว่าคุณคงไม่ได้รับคำตอบที่แท้จริงของการเลิกรา

แต่อาจได้ยินคำเสียดแทงที่คอยตอกย้ำความเจ็บปวด เช่น เธอดีเกินไป เราหมดรักเธอแล้ว

เราอยากอยู่เงียบๆ คนเดียว ฯลฯ จนวันเวลาผ่านไปจึงรู้ความจริงที่ฉาบด้วยถ้อยคำถนอมน้ำใจ

ก่อนหน้านั้นว่า เขามีคนใหม่มานานแล้ว

 

เมื่อจำต้องเลิกรา สิ่งที่คุณควรทำไม่ว่าอีกฝ่ายจะมีคำถนอมน้ำใจใดมอบให้คือ จงตั้งสติ

แล้วถามตัวเองว่า หากคุณไม่ยุติความสัมพันธ์ครั้งนี้ คุณจะยังมีความสุขกับชีวิตมากน้อยเพียงใด

 

 

ความรักเป็นอนิจจังเฉกเช่นสิ่งอื่นๆ บนโลกใบนี้ที่ล้วนมีวัน “เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป”

หากคนเรามองชีวิตและความรักอย่างเข้าใจว่า จะเร็วหรือช้ารักย่อมมีวันเลิกรา สิ่งสำคัญและ

ต้องทำคือ ต่างฝ่ายต่างดูแลทะนุถนอมความรัก และความรู้สึกซึ่งกันและกันในแต่ละวันให้ดีที่สุด

เพราะชีวิตล้วนมีสิ่งไม่คาดคิดเกิดขึ้นได้ทุกขณะ

 

ใช่ว่าสิ่งที่กล่าวมานั้นจะปฏิบัติตามอย่างง่ายดาย เพราะหากทุกคนทำได้คงไม่มี

เรื่องราวซับซ้อน รักสามเส้าเราสามคน ปัญหาหึงหวงทำร้ายอีกฝ่ายจนถึงชีวิต พ่อแม่ทะเลาะจน

แยกทางกัน ลูกหนีออกจากบ้านกลายเป็นคุณแม่วัยใส และอีกหลากหลายปัญหาเกิดขึ้นเป็นแน่

ดังนั้น องค์ประกอบที่สำคัญในการมีรักและใช้ชีวิตในทุกวัน นอกจากความรู้สึกและเหตุผลที่

พอเหมาะพอควรแล้ว

 

สิ่งที่ควรมีอย่างมากเลยคือ “สติ”

ที่ต้องหมั่นฝึกฝนกระทั่งกลมกลืนกับชีวิต

 

Hug magazine ปีที่ 12 ฉบับที่ 4 (15 มี.ค.-14 เม.ย. 2563)

ปก: มารีน่า-ศดานันท์ บาเล็นซิเอก้า


แหล่งข้อมูล

สีตลา ชาญวิเศษ. Love never Fail ไม่มีความรักครั้งไหนที่สูญเปล่า. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์อะไรเอ่ย, 2562

นพ.เกษม ตันติผลาชีวะ. ความรักที่ดีต้องมีเหตุผล. สืบค้นเมื่อ 18 กุมภาพันธ์ 2563, จาก http://www.love4home.com/index.php

ความรักเปรียบเสมือนอาหาร ต้องปรุงแต่งจึงจะมีรสชาติ. สืบค้นเมื่อ 18 กุมภาพันธ์ 2563, จาก https://women.kapook.com/view113102.html

รักยังไงไม่ให้ทุกข์ 10 ข้อคิดให้รักอย่างมีสติ แด่ทุกคนที่มีความรัก. สืบค้นเมื่อ 18 กุมภาพันธ์ 2563, จาก https://today.line.me/th/pc/article/

 


แจ็คกี้-ชาเคอลีน เปิดตัวตนเรื่องรักแบบ "กล้ารัก กล้าเลิก"

INTRO

/ บางคนไม่กล้าสบสายตากับความรัก เพราะกลัวความผิดหวังที่ยังไม่แสดงตัวดั่งการเล่นซ่อนหา
ซึ่งหลายครั้งหลายครามักโผล่มาแบบไม่ทันตั้งตัว

/ ในทางกลับกันใครหลายคนเห็นว่า การเผชิญหน้ากับความจริงแม้เหตุการณ์นั้นเกิดความผิดหวัง
อันแสนเจ็บปวด
แต่หากตรึกตรองให้ถ้วนถี่นี่คือคุณครูที่มอบบทเรียนราคาแพงให้เราเข้มแข็งขึ้น

/ Hug ฉบับนี้มีโอกาสสนทนาภาษารักอย่างออกรสกับ “แจ็คกี้-ชาเคอลีน มึ้นช์”
แบบที่เธอไม่เคยบอกเล่าที่ไหนมาก่อน …


ประสบการณ์รักสอนชีวิต

ความรักที่ผ่านมาสอนเรื่องมุมมองชีวิตขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ณ ตอนนั้นว่า

เราจบความสัมพันธ์ด้วยดีหรือเปล่า เพราะบางครั้งเรื่องที่ทำให้ความสัมพันธ์จบลง

ก็ส่งผลให้เราไม่สามารถเป็นเพื่อนกันต่อได้

กี้เคยมีแฟนที่คบกันมานานมาก เราต่างมีส่วนที่ดีและไม่ดีทั้งนั้น แต่เมื่อความรัก

ดำเนินมาถึงจุดที่เราต่างรู้สึกว่าคบกันในฐานะคนรักไม่ได้แล้ว จึงเลือกเดินออกมา

กี้รู้สึกว่าเขาอยู่ในชีวิตเรามา 8 ปี ไม่มีทางที่เราจะเกลียดกัน สิ่งสำคัญคือเขาควร

เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเรา เพราะเราคือคนที่รู้เรื่องราวในชีวิตของกันมาตั้งแต่วัยรุ่น

เหมือนเป็นคนในครอบครัวที่ประคับประคองกันมาตลอดทางที่คบกัน

กี้เป็นคนชัดเจน ถ้าคุยกับใครสักคนมาสักพักแล้วเขาเริ่มมีท่าทีคล้ายกับว่า

คิดกับเราเกินเพื่อน ถ้ากี้มั่นใจก็จะถามออกไปเลยว่า ‘หนูชอบพี่นะ พี่ชอบหนูไหม’

เราถามเพื่อเช็คความรู้สึกของเขา ถ้าเขาไม่คิดมากไปกว่านั้น เราจะได้หยุดคิด

ถามว่าเสียความมั่นใจไหมที่ถูกปฏิเสธ ก็ไม่นะ

ถ้ามีใครที่เข้ามาคุยแล้วมีท่าทีจะพัฒนาความสัมพันธ์ต่อได้กี้ก็เลือกที่จะ

ถามเหมือนเดิมเพื่อความชัดเจน

 

วิธีจัดการกับความรู้สึก

คนเราเกิดมาย่อมต้องเจอเรื่องที่ทำให้เสียใจ เมื่อชีวิตเจอกับความผิดหวัง

เราก็แค่เสียใจ กี้เยียวยาจิตใจตัวเองโดยการโทร.หาเพื่อนกับผู้จัดการ ใช้เวลาอยู่กับ

คนที่รักเราให้มาก

ถ้ายังไม่พร้อมพบเจอใครก็อยู่คนเดียว ดูซีรีส์ที่ชอบแล้วร้องไห้ให้เต็มที่

ไม่ต้องรีบมองหารักครั้งใหม่เพื่อลืมรักครั้งเก่า เพราะคนที่น่าสงสารรายต่อไปคือคนใหม่

ที่เราพยายามดึงเขาเข้ามาทดแทน

บางคนบอกกับตัวเองให้รีบมูฟออน แต่กี้อยากบอกว่า คุณควรอยู่เฉยๆ ให้ใจนิ่ง

แล้วความเศร้าจะค่อยๆ จางหาย

เมื่อไหร่ที่คิดถึงแฟนเก่า ให้คุณโทร.หาแม่หรือคนในครอบครัว อยากพูดอะไรกับเขา

ให้พูดกับแม่แทน กี้ทำแบบนี้แล้วรู้สึกดีมาก เรื่องนี้มีที่มาจากเหตุการณ์บนรถตู้ เมื่อ 12 ปีที่แล้ว

ตอนนั้นกี้ไปทำงาน เพื่อนที่นั่งอยู่ข้างๆ คุยโทรศัพท์ด้วยคำพูดที่น่ารักมาก จนเราอดคิดไม่ได้ว่า

เพื่อนต้องคุยกับแฟนแน่ๆ (ยิ้ม) พอเขาวางสายเราก็แซวแต่เพื่อนบอกว่า ‘คุยกับแม่’

นั่นทำให้เราคิดว่า ทำไมต้องเก็บคำหวานไว้ใช้กับแฟนในเมื่อพ่อแม่คือคนที่รักเรามากที่สุด

หลังจากนั้นกี้ก็คุยกับแม่แบบนั้นมาตลอด วิธีง่ายๆ คือคุยกับแฟนยังไงก็คุยกับพ่อแม่อย่างนั้น

 

 

นิยามรักในแบบแจ็คกี้

ความรักเป็นสิ่งสวยงาม บางคนอาจเจ็บปวดเพราะผิดหวังมาเยอะแต่ก็ยังอยากมีรักดีๆ

กี้มองว่าความรักมีหลายแง่มุมให้เรียนรู้ ไม่เฉพาะเจาะจงว่าต้องเป็นความรักในรูปแบบคนรักเสมอไป

สำหรับกี้ความรักคือพลังวิเศษที่ทำให้คนที่ไม่รู้จักกันมาก่อนมอบความหวังดีแก่กันได้

เป็นพลังวิเศษที่โลกใบนี้จัดสรรมาให้เรา มนุษย์คงอยู่ร่วมกันไม่ได้หากโลกใบนี้ขาดความรัก

กี้รู้สึกว่าเราควรรักทุกคนให้ได้และรักให้เป็น” 

 

ส่วนหนึ่งจากคอลัมน์ “เปิดประตูใจ”
ติดตามอ่านทั้งหมดได้ใน Hug magazine ปี 12 ฉบับที่ 5
ที่ 7-Eleven // Facebook: Hug magazine
หรือ E-Book ทาง Meb เพียง Search: Hug magazine


รักไม่มีเหตุผล

เรื่อง: อ.จตุพล ชมภูนิช

“อาจจะฟังแล้วไร้เหตุผล ว่าสิ่งที่ทำให้คนรักกัน
หรือเป็นเพียงรอยยิ้มรอยนั้น เมื่อวันแรกเจอ
หากจะหาเหตุผลสักคำ ว่าสิ่งที่ทำให้ฉันรักเธอ
นั่นเป็นเพราะตัวฉันได้เจอ เจอสิ่งดีงาม
ตั้งแต่วันฉันพบเธอ ก็เจอแต่สิ่งดีงาม”

นี่คือส่วนหนึ่งของเนื้อเพลง “เพราะอะไร” ที่ฟังเมื่อไร ก็อดยิ้มออกมาอย่างมีความสุขไม่ได้
บางครั้งรักก็ไม่มีเหตุผลจริงๆ ว่ารักเพราะอะไร ทำไมถึงรัก แล้วทำไมต้องรักคนนี้ และตอนนี้ด้วย
เมื่อก่อนกิน นอน เที่ยวกันมาก็ไม่รู้สึกอะไร เพิ่งจะมารู้สึกแบบไม่ธรรมดา เมื่อเข้าหน้าหนาวนี่เอง
ความรักก็มักเป็นเช่นนี้ จะล้อเล่น จะลองดู เดี๋ยวก็รู้ว่าไปรอด
กว่าจะรู้อีกที รักเข้าไปแล้ว จะถอยก็ไม่ได้ จะเดินต่อไปก็ไปไม่ถึง เหมือนพี่เบิร์ดว่าเอาไว้
พอรักเขาแล้ว มานึกย้อนกลับว่า รักเพราะอะไร

หล่อ เหรอ?
เคยเจอหล่อกว่านี้ ก็ไม่มีอาการสั่นไหว

รวย เหรอ?
เคยเจอที่รวยกว่านี้ไม่รู้กี่เท่า แบบรวยไม่รู้เรื่อง
รวยแบบเดินเห็นเสาไฟฟ้าแล้วยิ้ม น้ำลายไหลย้อยๆ ก็ไม่เคยคิดจะสนใจ

มีชาติตระกูลเหรอ?
เจอมาหมดแล้ว ราชนิกูลอยู่ในวังทองหลาง วังบูรพา ก็ไม่เคยเข้าตาสักคน

การศึกษาดี เหรอ?
เคยเจอผู้ชายแบบจบด็อกเตอร์ 15 ใบ แบบแทบพูดภาษาไทยไม่ได้
นอกจากภาษาไทยไม่สันทัด เพราะไปอยู่เมืองนอกมานาน
พูดภาษาคนก็ไม่ค่อยชำนาญอีกด้วย
ก็ไม่เห็นจะสะกิดใจให้รักได้

หรือดูแลเทคแคร์ดีเหรอ?
เคยเจอผู้ชายที่ดูแล ให้เกียรติเหมือนเจ้าหญิง
จอดรถแล้ววิ่งอ้อมมาเปิดประตูให้ทุกครั้ง
รู้สึกประทับใจ แต่พอถามว่าทำไมถึงทำแบบชำนาญเขาบอกว่า
เคยเป็นพนักงานขับรถมาก่อน เลยชินกับการเปิดปิดประตูรถ
ดูแลดีอย่างนี้ ยังไม่เคยสนใจรับพิจารณามาเป็นแฟน

แล้วคนที่รักกันปัจจุบันนี้มีดีอะไร
หล่อไหม ก็พอใช้ แค่ไม่ใช่มาตรฐานสากล
แค่เป็นความหล่อเฉพาะบุคคล ไม่ใช่หล่อแบบเป็นที่นิยมทั่วไป

รวยไหมไม่รู้ รู้แต่ชาตินี้อยู่เฉยๆ แบบไม่ต้องทำอะไรเลย
ก็น่าจะอดตายภายใน 3 วัน

การศึกษาดีไหม ดูจากโปรไฟล์ ผ่านมาไม่ต่ำกว่า 5 สถาบันการศึกษา
แต่ว่าไม่จบสักที่ โดนรีไทร์ โดนไล่ออกมาตลอด

ดูแลเทคแคร์ดีไหม อันนี้ไม่แน่ใจ เพราะตั้งแต่คบกันมา เขาก็แฟร์ๆ ดี

ต่างคนต่างมา ต่างคนต่างไป ใครกินใครจ่าย วันไหนไม่มี ก็ต้องออกให้ด้วย

ถามว่า เป็นอย่างนี้ รักเข้าไปได้ยังไง ทำไงได้รักไปแล้ว
ไม่ต้องหาเหตุผลหรอกว่ารักเพราะอะไร
เหตุผลเขาไว้ใช้ตอนเลิกกัน
ดีเกินไป
เข้ากันไม่ได้
ไม่เหมาะสมกัน
ไม่ใช่เนื้อคู่
ตอนรัก ไม่ต้องถามเหตุผลอะไร
คนจะไป ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะอยู่
รู้อย่างเดียวว่า ยังไงก็ต้องไป 


รักลงตัวต้องเหมือนหรือต่าง

เรื่อง: Wonder Wanners
Facebook: Love is Wanthip

ในภาพยนตร์หลายเรื่องจากหลากหลายสัญชาติ
เรามักเห็นชายหญิงที่มีนิสัยต่างกันคนละขั้ว
แต่กลับตกหลุมรักกัน ฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆ
และจบด้วยภาพฝันวันแฮปปี้เอนดิ้ง
ไม่ว่าจะเป็น F4 รักใสๆ หัวใจสี่ดวง
My Love from the Star
(ยัยตัวร้ายกับนายต่างดาว)
โฉมงามกับเจ้าชายอสูร (Beauty and the Beast)
รักบานฉ่ำที่นอตติ้งฮิลล์ (Notting Hill)
ฯลฯ
ดูไปอินไป แต่ในชีวิตจริง คู่รักต่างขั้ว
หรือ opposites attract เป็นคู่ที่ยั่งยืนสวยหรูไหมนะ

 

ประเด็นนี้ยังเป็นที่ถกเถียงในงานวิจัยทางจิตวิทยา

ระหว่างคู่ที่เหมือนกัน
(similarity attraction)
หรือคู่ที่มีความแตกต่างกันดึงดูดเข้าหากัน
(opposites attract or complementarity)

ว่ารักแบบไหนยั่งยืนกว่า

 

          Dijkstra & Barelds (2008) อธิบายว่า คนที่ไม่เหมือนกันดึงดูดเข้าหากัน
เพราะต่างเติมเต็มส่วนที่ขาดซึ่งเป็นส่วนที่เขาปรารถนา
การมีอีกคนที่มีส่วนนั้นมาเติมเต็มจึงทำให้เขาอิ่มอกอิ่มใจ

          อย่างไรก็ตาม ทฤษฎีการดึงดูดคนที่เหมือนกัน (similarity attraction) อธิบายว่า
คนเรามักดึงดูดอีกคนหนึ่งเข้าหา เพราะมีทัศนคติ ค่านิยม ไลฟ์สไตล์
พื้นฐานทางสังคมและวัฒนธรรม ความปรารถนา ที่เหมือนๆ กัน
คนเรามักอยากอยู่กับคนที่คิดเหมือนกัน เพราะเขาคอยสนับสนุน
ความเป็นเราและก่อให้เกิดความคุ้นเคยและความปลอดภัย
(Myers & Twenge, 2017)

         คนเรามักมองคนที่เหมือนกับเราว่า น่าดึงดูดกว่าคนที่ไม่เหมือนเรา
งานวิจัยทางจิตวิทยาส่วนใหญ่มักสนับสนุนทฤษฎีการดึงดูดคนที่เหมือนกัน
หรือคู่ที่เหมือนกัน


          มีงานวิจัยชิ้นหนึ่งกล่าวว่า บุคลิกภาพที่เข้ากันได้ระหว่างคู่รัก
ส่อถึงความสัมพันธ์ที่ยืนยาว โดยเฉพาะในแง่มุม
การเปิดรับประสบการณ์ (openness) ยิ่งเข้ากันได้เท่าไหร่
ความสัมพันธ์ยิ่งมั่นคงขึ้นเท่านั้น
(Rammstedt et al., 2013)

 

         ในงานวิจัยเมื่อปี 2017 ซึ่งวิจัยความเหมือนกันในความสัมพันธ์ของ
คู่รัก เพื่อน หรือคนรู้จัก จำนวน 1,523 คู่
โดยให้ทำแบบทดสอบ
ความคล้ายคลึงทางนิสัย ทัศนคติ ค่านิยม กิจกรรม
รวมถึงพฤติกรรมการดื่มและการใช้ยา เปรียบเทียบกับ
ระยะเวลาของความใกล้ชิดผูกพัน ผลปรากฏว่า
ร้อยละ 86 คู่รักมีแนวโน้มที่เหมือนกัน จึงเห็นได้ว่า
คนเรามักดึงดูดเข้าหาคนที่มีบุคลิก ลักษณะนิสัย และทัศนคติ
ที่ใกล้เคียงกันมากกว่าคนที่บุคลิกนิสัยตรงกันข้าม (Bahns et al., 2017)

 

          แม้แต่แอพพลิเคชั่นหาคู่ที่ได้รับความนิยมอย่าง
ทินเดอร์ (Tinder)
ยังจับคู่หนุ่มสาวโดยอิงจากความชอบ
ที่เหมือนกันจากโปรไฟล์เฟซบุ๊ก (Facebook profile)

          ส่วน eHarmony.com เว็บไซต์หาคู่ชื่อดังของ
สหรัฐอเมริกาเปิดเผยว่า การจับคู่คนโสดโดยนำข้อมูล
ความชอบและไม่ชอบที่คล้ายกันจากโปรไฟล์มาใช้
มักเป็นคู่ที่มีความสุข

         และยังมีงานวิจัยอื่นๆ อีกหลายชิ้นที่เนื้อหาสอดคล้องกัน
ดังนั้นจึงเห็นได้ว่า คนเรามักดึงดูดเข้าหาคนที่เหมือนกับเรา
มากกว่าคนที่มีความแตกต่างกัน

          อย่างไรก็ตาม นั่นไม่ได้หมายความว่า
คู่รักที่มีนิสัยต่างขั้วไม่อาจอยู่ด้วยกันได้
ในชีวิตจริงยังมีอีกหลายๆ คู่ที่นิสัยไม่เหมือนกัน
ไลฟ์สไตล์ต่างกันแต่อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขและยั่งยืน
ยกตัวอย่างคู่รัก มาร์จีและไมเคิล เลนีย์ (Marti & Michael Laney)
ผู้เขียนหนังสือ The Introvert and Extrovert in Love:
Making It Work When Opposites Attract
เผยเคล็ดลับการใช้ชีวิตคู่ต่างขั้วที่ทำให้การสมรส
มีความสุขมายาวนานกว่า 42 ปี

 

          เคล็ดลับที่สำคัญคือ เข้าใจซึ่งกันและกัน เข้าใจธรรมชาติที่ต่างกัน
หากคนที่ผ่านเข้ามาในชีวิตคุณนั้นไม่เหมือนกันกับคุณ ก็อย่าเพิ่งปิดใจ

 

          เคล็ดลับในการมีชีวิตคู่ที่ดี คือ ความเข้าใจซึ่งกันและกัน
มีอะไรให้เปิดอกคุยกันและปรับตัวเข้าหากัน
หาจุดที่เหมือนกัน และทำกิจกรรมนั้นร่วมกัน
เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่แนบแน่น เห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน
พอเวลาผ่านไปนานๆ คู่ที่ไม่เหมือนกันจะค่อยๆ ซึมซับ
และเหมือนกันเองทางใดทางหนึ่งโดยธรรมชาติ

 

 

หากเรารักกันมากพอ อุปสรรคต่างๆ ก็เป็นเพียงบททดสอบ
ให้เราสองคนรักกันมากขึ้น และผ่านพ้นอุปสรรคในชีวิตได้
รักแท้ชนะทุกสิ่งขอให้ทุกคนมีความสุขกับความรักค่ะ

 

Source:

  • Bahns, A. J., Crandall, C. S., Gillath, O., & Preacher, K. J. (2017). Similarity in relationships as niche construction: Choice, stability, and influence within dyads in a free choice environment. Journal of Personality and Social Psychology, 112(2), 329–355. doi: 10.1037/pspp0000088
  • Dijkstra, P., & Barelds, D. P. (2008). Do People Know What They Want: A Similar or Complementary Partner? Evolutionary Psychology, 6(4), 147470490800600. doi:10.1177/147470490800600406
  • Myers, D. G., & Twenge, J. M. (2017). Social psychology. New York, NY: McGraw-Hill.
  • Rammstedt, B., Spinath, F. M., Richter, D., & Schupp, J. (2013). Partnership longevity and personality congruence in couples. Personality and Individual Differences, 54, 832-835.


เริ่มรักจากตัวเองสไตล์โสดแซ่บ

เป็นโสดไม่ใช่เรื่องน่าอาย และไม่ใช่เรื่องที่ต้องปกปิด ตรงกันข้าม กลับเป็นช่วงเวลาที่คุณได้มีโอกาสอยู่กับตัวเองมากที่สุด ได้ดูแลตัวเองดีๆ และที่สำคัญ ได้เป็นตัวของตัวเองในแบบที่ไม่ต้องแคร์ความรู้สึกใคร แม้ว่าหลายคนอาจจะไม่ตั้งใจโสด แต่เมื่อต้องโสดแล้ว ก็ขอให้โสดแบบแซบสุดๆ สนุกจนหลายคนอิจฉา โสดอย่างมีความสุขโดยไม่ต้องง้อผู้ และนี่คือวิธีโสดอย่างไรให้แซบ เริ่มเลย!

1. เดินหน้าเพิ่มสวย

แน่นอน เมื่อโสดแล้ว เวลาส่วนตัวย่อมเยอะ อย่ามองว่านี่คือช่วงเวลาที่น่ากลัว เวลาส่วนตัวยิ่งเยอะ เราก็ยิ่งมีเวลาดูแลตัวเองให้ดีๆ เข้าสปา ขัดผิว ขัดหน้า บำรุงหน้า จัดเต็มพวกคอร์สเสริมความงามทั้งหลายแหล่ จนออร่าไฉไลดูเปล่งปลั่ง ใครเห็นเป็นต้องเหลียวหลัง โดยเฉพาะผู้ที่บังอาจทิ้งเราไป!


2. ปั้นหุ่นให้สตรอง

หน้า ผิว สวยแล้ว หุ่นก็ต้องแซบด้วย ยิ่งเดี๋ยวนี้เทรนด์สวยสตรองกำลังมาแรง จะสวยแบบผอมแห้งแรงน้อยเหมือนไม่ได้กินข้าวมาหลายวัน มันเอาท์ไปแล้วค่า ยุคนี้หุ่นดีต้องมีพร้อมทั้งซิกซ์แพค กล้ามหน้าท้องสวยๆ ก้นงอนงามๆ เอวบาง และหน้าอกสะบึม เข้าฟิตเนสออกกำลังกายเฉพาะส่วนกับเทรนเนอร์มืออาชีพเลย อาจต้องใช้เวลาหน่อย แต่จะเป็นไรไปล่ะ ก็เวลามันเยอะ จะใช้ทำอะไรก็เรื่องของเรา จริงมั้ย!

 

3. เต็มที่กับงาน

“อย่ายึดติดกับอดีต จนเสียอนาคต” ข้อความนี้จริงแท้ที่สุดค่ะ อย่ามัวแต่เศร้าเสียใจกับความรักที่ไม่สมหวัง แม้เขาจะเลือกหันหลังให้เราแล้ว แต่เราก็จำต้องก้าวเดินต่อไป ไม่ใช่เพื่อใคร แต่เพื่อตัวเราเอง เพื่อสิ่งดีๆ ที่รออยู่ในอนาคต ยิ่งช่วงนี้เราโสด หากไม่รู้จะใช้ทำอะไร ก็ใช้กับงานนี่แหละ แทนที่จะคิดคร่ำครวญหรือหมกมุ่นอยู่กับความรักที่ผ่านมา ก็ทุ่มเทเวลาให้แก่การทำงานดีกว่า นอกจากเราจะไม่มีเวลาว่างไปคิดเรื่องไร้สาระให้เสี่ยงต่อโรคซึมเศร้าแล้ว ยังอาจช่วยให้การงานของเรามีความเจริญก้าวหน้าและประสบความสำเร็จได้อย่างรวดเร็ว ยิ้มสวยๆ ให้ชีวิตดีๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นค่ะ


4. โสดไม่เอาเครียด

เมื่อเทียบระหว่างคนมีคู่กับคนโสด ดีกรีความเครียดย่อมแตกต่างกัน คนมีคู่ ต้องครุ่นคิดทั้งเรื่องที่เกี่ยวกับตัวเองและครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นคู่ครอง (เขายิ่งเจ้าชู้ เรายิ่งต้องเครียด) หรือลูกหลาน ที่มีเรื่องจิปาถะต้องจัดการตั้งแต่การเลี้ยงดู การเข้าเรียน จนถึงสิ่งแวดล้อมของลูก ในขณะที่คนไร้คู่มีเรื่องเครียดเฉพาะตัวเองเท่านั้น จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมคนโสดจึงมีอารมณ์ดีและความสุขง่ายกว่าคนมีคู่

 

Did you know?
รู้หรือไม่ว่า วันที่ 11 พฤศจิกายน ของทุกปี กลุ่มวัยรุ่นที่ประเทศจีนถือเอาวันนี้เป็นวันคนโสด (Singles Day) เรื่องราวเริ่มจากกลุ่มนักศึกษาจีนในทศวรรษ 1990 บางตำนานเล่าว่า เริ่มจากนักศึกษาชาย 4 คน นอนเหงาอยู่ในหอพักของมหาวิทยาลัย จึงชวนกันประชดความโสดด้วยการจัดเลี้ยงเฉลิมฉลอง และเลือกเอาวันที่ 11 พฤศจิกายน หรือวันที่ 11 เดือน 11 เพราะเลขวันดูโดดเดี่ยว มีเลข 1 สัญลักษณ์แห่งความโดดเดี่ยวไร้คู่ถึง 4 ตัวอีกตำนานเล่าว่า วันคนโสด มีชื่อเรียกในภาษาจีนว่า 光棍节 ซึ่งคำว่า 光棍 (Guānggùn) ในภาษาจีน นอกจากมีความหมายว่า “ไม้ท่อน” แล้ว ยังหมายถึง “ความโสด” ได้ด้วย และที่เรียกวันที่ 11 เดือน 11 เป็นวันคนโสด ก็เพราะตัวเลข 1 สี่ตัว ดูเหมือนท่อนไม้สี่ท่อนนั่นเอง จุดประสงค์ของการจัดวันคนโสดขึ้นก็เพื่อเปิดโอกาสให้คนโสดทั้งหลายได้ออกมาสังสรรค์ หรือนัดพบทำความรู้จักกันเพื่อหาคู่นั่นเอง