Highlights

  ลงมือก่อนของมุก-วรนิษฐ์เมื่อครั้งอายุ 11 คือ ขอคุณพ่อคุณแม่เรียนร้องเพลงเพราะค้นพบว่าตัวเองมีความสุขทุกครั้งที่ได้ทำ
  ลงมือทำคลิปร้องเพลงลง YouTube ก่อนที่ผู้ใหญ่ทางจีเอ็มเอ็ม ทีวี เห็นแววจึงชักชวนมาร่วมงาน
  ลงมือทำงานตอนอายุ 16 ก่อนคนวัยเดียวกัน แม้ไม่ต่างจากดารานักแสดงคนอื่นๆ แต่นับเป็นการเปิดประตูสู่โอกาสใหม่ในชีวิตของเธอ
  แง่มุมความรักในวัย 23 มุกคบหากับทอย-ปฐมพงศ์ เรือนใจดี เปิดตัวก่อนอย่างไม่ปิดบังเพื่อใช้ชีวิตแบบปกติธรรมด


นิยามความรักและคนรักของมุก-วรนิษฐ์

นิยามความรักของมุกคงเหมือนกับที่ใครหลายคนบอกว่า “รักคือการให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน”รักคือการแชร์ทั้งสุขทุกข์ อยู่เคียงข้างกัน ความรักของมุกหมายถึงเพื่อนและครอบครัวด้วย ส่วนความรักในรูปแบบคนรักของมุกในวันนี้ถือว่ามีความสุขดี (ตอบพร้อมแจกรอยยิ้มสดใส) เราใช้ชีวิตปกติ เป็นเพื่อนที่คอยดูแลกัน พยายามเข้าใจกันให้มากที่สุด มีบ้างที่ทะเลาะกันแต่ถือว่าน้อยมาก ไม่นานก็ดีกัน เพราะเราไม่ได้อยากทะเลาะหรือโกรธกันนาน ข้อดีที่สำคัญของคู่เราคือต่างพูดคำว่า “ขอโทษ” กันง่าย ทำให้ปัญหาคลี่คลายเร็ว อีกอย่างหนึ่งคือครอบครัวมุกเปิดใจคุยเรื่องความรักกับลูกๆ แม่จะคอยเตือนมุกถ้าเราหงุดหงิดหรือเถียงกันด้วยเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ซึ่งนานๆ ทีจะเกิดขึ้นสักครั้ง 

รักของคนยุคนี้ที่ “อยากมีความรักแต่ไม่อยากผูกมัด”

บางคนคิดว่าการที่เราบอกใครต่อใครว่ามีแฟนนั้นเป็นการผูกมัดกัน ส่วนตัวคิดว่ามุกกับพี่ทอยไม่ได้ผูกมัดกันขนาดนั้น แค่ ณ ปัจจุบันเรามีความสุขก็เพียงพอแล้ว แต่บางคนอาจคิดว่าอนาคตยังอีกยาวไกล อย่าเพิ่งบอกออกไปชัดเจนว่าคบใครเป็นแฟน ซึ่งนั่นไม่ใช่เรื่องผิด เพราะถ้าเราทำแล้วมีความสุข ไม่ทำให้ใครเดือดร้อนก็ถือว่าดีที่สุดแล้ว เหตุผลที่มุกกับพี่ทอยเปิดเผยเรื่องความรักเพราะเราอยากใช้ชีวิตแบบปกติธรรมดา ไปไหนมาไหนด้วยกันอย่างไม่ต้องหลบซ่อน ไม่อยากโกหก ถ้าใครถามเราก็ตอบ สิ่งสำคัญคือถ้าเราสองคนเข้าใจตรงกันก็ไม่มีความจำเป็นต้องปิดบัง คนส่วนใหญ่อาจคิดแทนเราว่าจะส่งผลกระทบกับงานไหม เรตติ้งจะตกหรือเปล่า มุกให้ผลงานเป็นตัวชี้วัดดีกว่า ไม่อยากให้เรื่องส่วนตัวอยู่เหนืองานหรือเป็นตัวสร้างชื่อเสียงใดๆ เพราะมุกไม่ได้อยากมีชื่อเสียงจากการคบ เลิกรา หรือเป็นโสด แฟนคลับมุกรู้ดีว่าเราไม่ได้รักกันแล้วชักชวนกันไปในทางที่ไม่ดี มุกมองว่า ความรักเป็นเรื่องที่ดี เพราะฉะนั้นเรามาทำให้ชีวิตมีความสุขดีกว่า ความรักไม่ได้ทำให้เราทุกข์ เราต่างหากที่เป็นทุกข์เอง ทำอะไรแล้วมีความสุขถือเป็นเรื่องดีที่เกิดขึ้นในชีวิต เพราะความสุขไม่มีรูปแบบตายตัว

แม่เคยบอกให้มุกแต่งงานตอนอายุ 25

ตอนเราอายุ 12 แม่เคยบอกว่าพอลูกอายุ 25 ก็จะโตเป็นสาวแล้วก็แต่งงาน เรื่องนี้เริ่มจากแม่ที่มีลูกยาก แม่แต่งงานตอนอายุ 30 ตั้งใจมีลูกเลยแต่ไม่เป็นอย่างที่คิดไว้ เวลาผ่านไปสักระยะถึงมีพี่เมฆ (จิรกิตติ์ ถาวรวงศ์) 2 ปีต่อมาถึงมีมุก แม่จึงมองว่าการมีครอบครัว มีลูก ต้องวางแผน ใช่ว่าอยากมีแล้วมีได้ดั่งใจ มุกเคยคิดว่าถ้าแต่งงานตอนอายุ 25 อย่างที่แม่บอกได้ก็คงดี แต่พอมาถึงตอนนี้มุกอายุ 23 แล้วกลับรู้สึกว่าตัวเองยังเด็ก ยังไม่พร้อม ยังอยากทำงานอย่างเต็มที่ การแต่งงานต้องพร้อมในหลายๆ ด้าน ทั้งการใช้ชีวิตคู่ การมีสมาชิกในครอบครัวเพิ่ม วันนี้เรามองว่าเรื่องแต่งงานนั้นยังอีกยาวไกล แม้แต่ความคิดของแม่ในตอนนี้ก็เปลี่ยนไปแล้ว เพราะในสายตาแม่ย่อมเห็นว่าลูกยังเป็นเด็กอยู่เสมอ มุกเป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่อยากมีลูก มุกชอบแซวแม่ว่า “เธอโชคดีนะเนี่ย มีลูกทำงานตั้งแต่อายุ 16” มุกและแม่มองว่าการมีลูกเหมือนมีเพื่อนที่คอยใส่ใจดูแลกัน ช่วยสร้างบรรยากาศให้ครอบครัวมีความสุข

แบบอย่างจากแม่ที่มุกได้เรียนรู้คือ แม่เป็นคนที่อยู่กับปัจจุบันขณะและมีการวางแผนที่ดี เช่น วางแผนการเงินไว้สำหรับลูก เพื่อให้ได้เรียนเพิ่มเติมในเรื่องที่สนใจ สิ่งสำคัญสำหรับวัยนี้มุกให้ความสำคัญแก่การทำงานเก็บเงิน ที่เหลือเป็นเรื่องของอนาคต สมมติถ้าเรามีลูกแล้วเขาอยากเรียนอะไร เราก็ไม่ต้องเดือดร้อน หรือถ้าเกิดอะไรขึ้นกับเราหรือครอบครัวก็ไม่ต้องเดือดร้อนไปหยิบยืมใคร เพราะฉะนั้นนิยามความเป็นมุกคือ “ประหยัด” ค่ะ

สิ่งที่มุกเรียนรู้จากความสัมพันธ์ของพ่อกับแม่คือ แม้เขาทะเลาะกันบ่อยแค่ไหนแต่ก็ไม่เคยทอดทิ้งกัน พ่อมุกป่วยเป็นเวลานานเริ่มจากเบาหวาน จนกระทั่งมาตรวจเจอโรคหัวใจ ส่วนแม่ก็ทำทุกอย่างเพื่อดูแลพ่อ หลังจากพ่อเสีย แม่บอกว่าไม่ใช่แค่แฟนที่ตายจากกัน แต่เหมือนกับอีกครึ่งหนึ่งของชีวิตเรานั้นตายจาก เพราะทั้งคู่เป็นครึ่งหนึ่งของชีวิตกันแล้ว มุกมองว่าความรักของพ่อกับแม่เป็นรักที่มั่นคง ไม่ยอมแพ้แก่อะไรง่ายๆ ต่อให้เขาเถียงกันทุกวัน แต่เขาไม่คิดแยกจากกันเลย

วิธีจัดการความเศร้าในแบบของมุก-วรนิษฐ์

โชคดีที่มุกหมกมุ่นอยู่กับความเศร้าไม่นาน ในวันที่เรามีคนที่อ่อนแอกว่า เราก็จะเข้มแข็งขึ้นโดยอัตโนมัติ พี่เมฆ-พี่ชายของมุกเป็นคนอ่อนไหวมาก เขาร้องไห้ฟูมฟายอย่างที่มุกไม่เคยได้ยินมาก่อน แต่ละคนมีวิธีรับมือกับการสูญเสียไม่เท่ากัน มุกเป็นห่วงทั้งแม่และพี่เมฆ ไม่แปลกที่ในภาวะที่เราเศร้าแล้วเรามักคิดโทษตัวเองซ้ำแล้วซ้ำอีก มุกต้องเข้มแข็งก่อนเพื่อจะได้มีแรงพอสำหรับปลอบทุกคน มุกเชื่อว่าเมื่อเวลาผ่านไปสภาพจิตใจของทุกคนจะค่อยๆ ดีขึ้น ไม่ต้องร้องไห้ทุกครั้งที่นึกถึงคุณพ่อ

ส่วนพี่ทอยเป็นทั้งแรงกายแรงใจที่สำคัญมาก เขาลางานและยกเลิกงานเท่าที่ทำได้เพื่อให้เวลาแก่ครอบครัวเราเกือบทั้งเดือน มีเหตุการณ์สำคัญคือวันที่คุณพ่อเสีย วันนั้นมุกทำงานอยู่ คนที่มาอุ้มคุณพ่อที่บ้านคือพี่ทอย เรียกได้ว่าเขาดูแลเราอย่างเต็มกำลังในทุกทางเท่าที่คนคนหนึ่งจะช่วยได้ ต้องขอบคุณพี่ทอยที่อยู่เคียงข้างกันแม้ในยามที่เราลำบาก

วิธีจัดการความเครียดในแบบของมุกคือ พูดคุยกับเพื่อน คนในครอบครัว กับคนที่เรารักและรู้ว่าเขารักเราแน่ๆ คุยกันได้ทุกเรื่อง ทั้งเรื่องที่เราผิดและถูก เขาคอยให้คำแนะนำและปลอบใจเราได้เป็นอย่างดี เราเป็นครอบครัวที่เปิดใจคุยกัน เข้าข้างกัน ไม่ซ้ำเติมกัน ครอบครัวเราแสดงความรักกันน้อยมาก แต่มุกมองว่าการสนับสนุนกัน เข้าข้างกัน เป็นทีมเดียวกัน นั่นคือการแสดงความรักในแบบของเรา เราเข้าข้างกันแต่ไม่ได้ให้ท้าย ถ้าเราทำผิดแล้วมาบอก เขาก็จะปลอบว่า ไม่เป็นไร คราวหน้าอย่าทำแบบนี้อีก

มีบ้างที่มุกเก็บคำพูดของคนอื่นมาครุ่นคิด แม่ก็จะคอยเตือนว่าไม่ต้องคิดมาก คอยให้กำลังใจซึ่งกันและกัน เราเป็นทีมเดียวกัน ในฐานะนักแสดงมุกเปรียบครอบครัวเป็นแอ๊คติ้งโค้ช เพราะเมื่อแอ๊คติ้งโค้ชกับนักแสดงเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันจะนำมาซึ่งการแสดงที่ดีมาก เมื่อเราเป็นทีมเดียวกัน ทุกอย่างก็สมบูรณ์พร้อมขึ้น ในฐานะลูกอยากฝากให้ทุกคนใช้เวลาร่วมกับคนในครอบครัวให้มากๆ หมั่นถ่ายรูปบันทึกความทรงจำดีๆ เก็บไว้ เพราะวันหนึ่งเราอาจจะไม่สามารถเพิ่มเติมภาพของเขาลงไปในอัลบั้มได้อีกแล้ว

 

มุมมองความรักถึงคนโสดและคนมีคู่

สิ่งสำคัญไม่ว่าคุณจะอยู่ในสถานะใดก็ตาม คุณต้องรักตัวเองให้เป็น รู้จักเติมตัวเองให้เต็ม หากเป็นเช่นนั้นเชื่อว่าคุณจะใช้ชีวิตง่ายขึ้น ถ้าคุณไม่รู้จักเรียนรู้วิธีเติมเต็มชีวิตให้แก่ตัวเอง เมื่อมีคนรัก คุณจะต้องการและยึดติดตัวเขาอยู่ตลอด หากวันหนึ่งเขาจากไป ชีวิตของคุณจะเป็นยังไง มุกมองว่าวิธีรักตัวเองอย่างง่ายคืออย่าให้ใครมาทำร้ายเราเท่านั้นเอง อย่าอดทนกับอะไรก็ตามที่ทำให้ชีวิตเราแย่ มุกเชื่อว่าหลายคนรู้ว่าอะไรที่กำลังบั่นทอนชีวิตของเรา แต่กลับชอบหาเหตุผลมาอ้างเพื่อให้ตัวเองอยู่ในสถานะนั้นต่อไปได้ ถ้าตรงนั้นมันแย่มากเราก็มูฟออนเถอะ อะไรที่เรายังพอรับได้ก็อดทนไป แต่อะไรที่เกินเยียวยาก็ควรปล่อยวาง เพราะเราเลือกที่จะมีความสุขในแบบของเราได้ สิ่งสำคัญคือรักตัวเองและเห็นคุณค่าของการมีชีวิตอยู่


เมื่อพูดถึง HUG มุกนึกถึงอะไรนึก

ถึงอ้อมกอด นึกถึงฮักที่แปลว่ารัก นึกถึงความอบอุ่นที่เกิดจากความรัก

มุก-วรนิษฐ์ ไม่ได้กล่าวว่า “ลงมือก่อน … ได้เปรียบ” แต่ฮักขอนิยามไว้ให้คุณได้คิดต่อ

Quotes

" สิ่งสำคัญไม่ว่าคุณจะอยู่ในสถานะใดก็ตาม คุณต้องรักตัวเองให้เป็น รู้จักเติมตัวเองให้เต็ม หากเป็นเช่นนั้นเชื่อว่าคุณจะใช้ชีวิตง่ายขึ้น. "

— มุก-วรนิษฐ์ ถาวรวงศ์