เธอทำให้ฉันยิ้มได้ : เป้ วงมายด์ & กร-ษิภูตา
แค่ความรักและความผูกพันที่มอบให้ บวกความเข้าใจที่ช่วยเติมเต็มซึ่งกันและกัน เขาและเธอจึงจับมือเคียงคู่กันก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง
_____________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________
กินข้าวกระชับรัก
การพบกันของหนุ่มสาวคู่นี้อาจไม่ค่อยต่างกับคู่อื่น เริ่มจากสาวกรทำงานเป็นพิธีกรรายการหนึ่งที่หนุ่มเป้ไปสัมภาษณ์เพื่อโปรโมตเพลง แม้ทั้งสองจะไม่รู้จักกันมาก่อน แต่ด้วยความชอบในการแต่งตัวแนวสตรีทและรองเท้าสนีกเกอร์ได้กลายเป็นจุดที่เชื่อมโยงทั้งคู่เข้าหากัน สาวกรยิ้มหวานก่อนเล่าว่า “พอจบรายการ ตอนนั้นจะมีโปรโมทคอนเสิร์ต พี่ทีมงานของรายการมาถามกรว่า มีบัตรคอนเสิร์ตสำหรับสื่อมวลชนไหมเพราะเขาจะทำข่าว เลยให้กรไปถามพี่เป้ว่าถ้าจะขอต้องติดต่อใคร ด้วยความที่ไม่รู้จักวง พี่เป้บอกว่าติดต่อที่เขาได้เลย เขาให้ทักไดเร็คเมสเซจในอินสตาแกรมมาเดี๋ยวบอกให้” หนุ่มเป้เสริมว่า “เรารู้สึกว่าเป็นอะไรที่ไม่คุกคามน้องที่สุดแล้ว ถ้าจะขอไลน์ก็ดูเกินเหตุ ขอเบอร์ก็ยิ่งแย่ คุยผ่านไดเร็คเมสเซจในไอจีน่าจะซอฟต์ที่สุดแล้ว หลังจากนั้นก็คุยกันและนัดเจอเพื่อเอาบัตรให้”
ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาเล่าว่าไม่อยากทำอะไรที่ต้องผูกมัดหรือทำเป็นหน้าที่ ให้ต่างคนต่างใช้ชีวิตของตัวเอง และให้ธรรมชาติของแต่ละคนค่อยๆ ดึงดูดเข้าหากันผ่านกิจกรรมที่ทำร่วมกันอย่างการกิน สาวกรเล่าอย่างตื่นเต้นว่า “ตั้งแต่รู้จักพี่เป้มาก็ไม่เคยรู้สึกว่าเขาจีบเราเลยสักนิด มีแต่ชวนกินข้าว แต่พอเรามาทบทวนจึงรู้ว่า นั่นคือการอยากเจอหน้ากัน แต่ไม่ได้พูดว่าคิดถึง อยากเจอ” ส่วนหนุ่มเป้ อธิบายว่า “ผมไม่เคยส่งข้อความหรือส่งรูปหัวใจ บอกฝันดีน้อยมาก ตอนนัดเจอก็เน้นเรื่องกินข้าว พาไปกินก๋วยเตี๋ยว อย่างหนึ่งที่ทำให้ผมรู้สึกว่าเราน่าจะคบกันได้คือ กรเป็นผู้หญิงที่กินอะไรแล้วดูอร่อย ผู้หญิงคนนี้มีความสุขทุกครั้งตอนกิน อาจเรียกได้ว่าเราจีบกันผ่านอาหารจานอร่อยมากกว่า เหมือนเวลามันเหวี่ยงให้เราค่อยๆ ใกล้กันมากขึ้น”
หลักการเลือกคนรัก
เมื่อถามถึงมุมมองในการเลือกคนรัก นักร้องหนุ่มน้ำเสียงอบอุ่นตอบว่า “ผมเลือกผู้หญิงของผมจากความเข้าใจ ผมเชื่อว่าความเข้าใจมีคุณค่ามากกว่าความรัก เพราะชีวิตคู่ที่มีแต่ความรักไม่สามารถอยู่คงทนหากขาดความเข้าใจ มนุษย์ใช้นิสัยและมุมมองไว้คานกัน การเป็นตัวของตัวเองนั้นเป็นสิ่งดีแต่ต้องอยู่บนพื้นฐานความสุขของคนอื่นด้วย เพราะฉะนั้นถ้าคนที่รับสารจากเราไป เข้าใจเจตนาของเราในทุกเรื่อง เช่น เข้าใจวิธีการทำงาน ความเข้าใจสำคัญมากสำหรับผม และบ่มเพาะให้เกิดความรักที่มั่นคงได้ ความรักอย่างเดียวไม่น่าจะพอ เพราะฉะนั้นผู้หญิงที่จะเข้ามาร่วมชีวิตต้องเข้าใจผมและผมต้องเข้าใจเขาด้วย”
“กรใช้สัญชาตญาณและประสบการณ์เป็นเครื่องชี้วัดด้วย ก่อนรู้จักพี่เป้หรือแม้แต่ตอนรู้จักกันแล้ว เราไม่ได้คาดหวังอะไร แต่เราค่อยๆ รู้จักกันโดยไม่รู้ตัว ทุกครั้งที่คุยหรือเจอกันมีแต่ความสบายใจ ไม่ต้องพยายาม แค่มองตากันก็รู้ว่าเขาคิดอะไร มันยากมากที่จะเจอคนที่กำลังศึกษากันอยู่แล้วจูนกันติดได้ง่าย เพราะถ้าทัศนคติของคนสองคนไม่ตรงกันคงอยู่ด้วยกันยาก แต่โชคดีที่เราพยายามทั้งคู่ในแบบที่เข้าใจกันจริงๆ”
แม้จะคบหาดูใจกันได้ไม่นาน แต่ระยะเวลาก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับการเริ่มต้นชีวิตคู่ หนุ่มเป้เปิดใจด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “ผมแสวงหาความสุขรอบตัวมาเยอะพอสมควร ถึงเวลาที่จะสร้างความสุขในบ้าน จึงตัดสินใจคบหาน้องอย่างจริงจัง จนพบว่าความรักหรือความมั่นใจไม่เกี่ยวกับเวลา ถ้าเรามั่นใจในใครสักคน แน่ใจแล้วว่าคนคนนี้เข้ามาเพื่อทำให้เรามีความสุขและมีชีวิตที่ดีขึ้น เราก็ไม่ควรเสียเวลามองหาสิ่งอื่น ผมคิดว่าการที่เราคว้าโอกาสที่ดีที่สุดในช่วงเวลาที่ยังคว้าได้ทันนั้นดีที่สุด น้องกรคือส่วนเติมเต็มที่ผมไม่มีมานานมากและตอนนี้ผมเจอแล้ว ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะปล่อยให้น้องเดินไปจากชีวิต ผมเลยตัดสินใจรักษาไว้ด้วยการแต่งงาน”
เข้าใจเพื่อก้าวไปต่อ
หลังจากใช้ชีวิตร่วมกันมา มีความเปลี่ยนแปลงใดบ้างที่ต้องปรับ นักร้องหนุ่มตอบพร้อมสีหน้ายิ้มแย้ม “นี่คือการที่ได้ใช้ชีวิตร่วมกันอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เพราะเราจดทะเบียนสมรสกันแล้ว ทางนิติกรรมถือว่าเราแต่งงานกันแล้วเหลือแค่การจัดพิธีเท่านั้น ทุกวันนี้น้องก็อยู่ในความรับผิดชอบของผม เรามีเวลาเรียนรู้กันมากขึ้น ผมได้ให้น้องเข้ามาเป็นหุ้นส่วนในบริษัทของผม ถ้าเราเป็นแค่แฟนคงมีบางเรื่องที่ยังไม่สามารถให้เขาเข้ามามีส่วนร่วมได้มากนัก แต่ตอนนี้เราเป็นครึ่งหนึ่งของชีวิตกันแล้ว ไม่มีส่วนไหนที่เขาเข้าถึงไม่ได้ ชีวิตของผมนั้นง่ายขึ้นมากตั้งแต่มีเขาเป็นภรรยา” สาวกรมีความเห็นคล้ายกันว่า “ตอนเป็นแฟนเรารับผิดชอบความรู้สึกของกันและกัน แต่หลังจากจดทะเบียนสมรสเหมือนกับทุกอย่างบังคับให้เราเป็นผู้ใหญ่ขึ้นทันที ถ้าทะเลาะต้องรีบเข้าใจกันให้เร็วที่สุด เพราะวันนี้เราคือครอบครัวเดียวกัน มีอีกหลายส่วนที่ต้องช่วยกัน เพื่อส่งเสริมให้เราทั้งคู่เติบโตไปมากกว่านี้ด้วยค่ะ”
นอกจากนั้นหากเกิดปัญหาใหญ่แค่ไหนก็จะไม่เดินหันหลังให้กัน แต่พร้อมจะพูดคุยด้วยเหตุผลอย่างเข้าใจและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เพื่อจบปัญหาโดยเร็วและไม่ปล่อยให้คาใจจนเสียความรู้สึก เหมือนที่นักร้องหนุ่มเสียงดีกล่าวไว้ว่า “คนที่ขอโทษก่อนด้วยความจริงใจเป็นผู้ชนะในความสัมพันธ์ชีวิตคู่เสมอ เพราะถ้ามีใครสักคนชนะนั่นไม่ใช่ชีวิตคู่ ต้องชนะทั้งคู่ถึงจะเป็นชีวิตคู่”
Happy wife happy life
ขึ้นชื่อว่าความรักย่อมมีอุปสรรคเข้ามาเป็นบททดสอบชีวิต ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเรื่องความเข้าใจผิด เช่น คำพูด การพิมพ์ข้อความ หรือการกระทำที่ทำโดยคิดว่าอีกฝ่ายเข้าใจ จึงไม่ได้อธิบายจนเกิดความน้อยใจ เลยต้องปรับความเข้าใจกัน “ข้อเสียของกรคือไม่ค่อยพูด แต่เก็บข้อมูลจนค่อยๆ สั่งสมกลายเป็นความน้อยใจ สุดท้ายก็เป็นปัญหา แล้วความรู้สึกของเราที่ไม่ดีก็เพิ่มขึ้น รอวันระเบิด เรามั่นใจไปเองว่ามันใช่แน่ๆ ตอนหลังตกลงกันว่าถ้าไม่โอเคก็พูดเลย หลายครั้งคือการเข้าใจผิด ซึ่งไม่แฟร์สำหรับเขา เพราะเราโมโหใส่เขาโดยที่เขาไม่ได้ทำอะไรผิด แต่เราคิดไปเอง”
หนุ่มเป้ได้ฝากข้อคิดในประเด็นนี้ว่า “มีโควทหนึ่งของฝรั่งที่ผมชอบมากคือ ‘Happy wife happy life’ สำหรับผมคือเรื่องจริง ผมรู้สึกว่าแค่ตื่นเช้ามาเห็นเขาหน้าบูดบึ้ง ผมก็ไม่มีความสุขแล้ว เราเคยทะเลาะกันเพราะกรฝันร้าย ผมเลยคิดว่าไม่เป็นไร จากนี้ไปอะไรที่เป็นความสุขของเขาก็คือความสุขของผมเหมือนกัน ทุกวันนี้ผมเลือกหาความสุขใส่ตัวโดยทำให้เขามีความสุขครับ”
เปลี่ยนชีวิตให้มีรอยยิ้ม
หลายคนมักคุ้นตากับภาพหนุ่มเป้ วงมายด์ ผู้เคร่งขรึมและยิ้มยาก แต่เมื่อมีภรรยาแสนสวยคนนี้เคียงข้าง โลกของเขาสว่างสดใสและมีรอยยิ้มกว่าที่เคย เธอส่งยิ้มให้สามีก่อนเล่าว่า “ช่วงแรกที่รู้จักกัน กรเคยได้ยินข่าวลือว่าเขายิ้มยาก ส่วนหนึ่งคือเรื่องจริง แต่ไม่ได้หมายความว่าทั้งชีวิตเขาเป็นคนแบบนั้น อาจเพราะการวางตัวในการทำงาน แต่พี่เป้เป็นอีกคนหนึ่งตอนที่กินข้าวด้วยกันกับเรา กรพยายามให้เขาถ่ายทอดความเป็นตัวตนนี้กับคนอื่นๆ เพื่อให้คนเหล่านั้นเข้าใจพี่เป้มากขึ้น พยายามให้เขายิ้มเวลาออกสื่อ ใช้เวลาเกือบปีโดยให้เขาลองยิ้มกับคนใกล้ตัวก่อน มีครั้งหนึ่งที่พี่เป้ลงรูปที่เขายิ้มตอนไปเกาะสีชัง ตอนนั้นผลตอบรับดีมาก ทุกคนไม่เคยเห็นเขายิ้มกว้างอย่างนั้นมาก่อน พอเขายิ้มมากขึ้นทุกคนก็เริ่มเข้าใจเขา ข้อดีคือเราจะได้เป็นตัวเองแบบนี้ไปตลอด ไม่จำเป็นต้องใส่หัวโขนหรืออยู่ในแคแร็กเตอร์นั้นแล้ว เพราะตอนที่เขาอยู่กับกรเขาน่ารักมาก”
ส่วนเรื่องความประทับใจ สามีหนุ่มพูดหนักแน่นว่า “บ้านดูเป็นบ้านมากขึ้น น้องกรคือส่วนที่ทำให้บ้านหลังนี้สมบูรณ์แบบและมีความรัก เรากลับมาแล้วหายเหนื่อย ความหมายของคำว่าบ้านจริงๆ คือความอบอุ่นและที่พักใจซึ่งตอนนี้ผมมีแล้ว กรเหมือนเป็นแท่นชาร์จแบตฯ มือถือที่ชาร์จพลังให้ผมได้เต็มและไวมาก พร้อมให้ผมออกไปสู้ชีวิตได้อีกนาน อะไรที่หนักหนาพอกลับบ้านมาผมหายและมีความสุขจริงๆ”
ฝ่ายภรรยาก็ตอบสั้นๆ ว่า “การแต่งงานเร็วและอยากมีลูกเร็วเป็นความใฝ่ฝันของกรอยู่แล้ว และเรายังมีพลังในการเลี้ยงลูก พี่เป้เป็นคนที่เข้ามาทำให้ฝันของกรเป็นจริง ทั้งก่อนและหลังแต่งงาน เขาทำให้เรารู้สึกว่าไม่น่าเชื่อว่าผู้ชายคนหนึ่งจะทำเพื่อเราได้ขนาดนี้ แล้วอยู่บนพื้นฐานของการไม่ฝืนตัวเอง”
หลักคิดเพื่อรักที่ยืนยง
นอกจากการดูแลเอาใจใส่แล้ว ยังมีสิ่งใดที่อยากบอกกันและกันอีกบ้างไหม สาวกรรีบตอบด้วยความดีใจ “พี่เป้เป็นของขวัญที่ดีที่สุดในชีวิตของกร เหมือนเราได้รับของขวัญจากพระเจ้าทุกวัน ทุกอย่างที่เขาทำให้คือของขวัญเล็กๆ น้อยๆ ที่ทำให้หัวใจเราเต้นผิดจังหวะได้ตลอด ยากมากที่เราจะได้รับสิ่งดีๆ แบบนี้ทุกวันจากใคร” ฝ่ายสามีคิดอยู่นานก่อนตอบ “น้องกรคือผัดกะเพราของผมครับ หลายคนอาจมองว่าเป็นเมนูสิ้นคิด แต่ความสำคัญของเมนูนี้คือหนึ่ง ถ้าเราสามารถกินได้ทุกวัน หมายความว่าต้องเป็นเมนูที่อร่อยมาก สอง เมนูนี้สามารถวัดได้ว่าเชฟเก่งหรือไม่ สาม เมนูนี้สามารถพลิกแพลงได้ พูดง่ายๆ กะเพราจานนี้พร้อมที่จะหล่อเลี้ยงเราไปตลอดชีวิตและเปลี่ยนไปได้เสมอ วันนี้หนูอาจเป็นกะเพราไก่ อีกวันอาจเป็นกะเพราใส่ไข่ดาวในบางวันที่พิเศษของเรา ไอจะบอกว่าหนูคือทุกอย่างในชีวิตของไอนะ ขอบคุณมากจริงๆ” สามีหนุ่มพูดจบพร้อมยิ้มพราย ส่วนภรรยาหันไปสบตาแล้วส่งยิ้มเป็นคำตอบแทนการเอื้อนเอ่ยคำรัก ก่อนที่ทั้งคู่จะแนะนำคุณสมบัติการเป็นคู่ครองที่ดีฝากไว้เป็นแง่คิด เริ่มจากคุณเป้
“คู่ที่ดีต้องมีความเข้าใจ ความไว้ใจ ความซื่อสัตย์ ที่สำคัญคือการยอมรับความผิดที่เราต้องเข้าใจว่าปัญหาเกิดจากอะไร ไม่ใช่เมื่อเกิดปัญหาแล้วขอโทษ อย่างนั้นคือการตัดปัญหา คำขอโทษจะมีความหมายต่อเมื่อเราตั้งใจพูดจริงๆ ผมรู้สึกว่าถ้าเรายึดหลัก 4 ข้อนี้ ชีวิตคู่จะยืนยาวเพราะสุดท้ายเราไม่รู้หรอกว่าความรักคืออะไร ความรักอาจเป็นแค่ความสุขก็เป็นได้” คุณกรกล่าวเสริมว่า “กรกับพี่เป้โชคดีที่เรามีความคิดเห็นตรงกันว่า ชีวิตคู่จะสามารถดำเนินไปได้นานนั้นอยู่ที่ความเข้าใจ ความผูกพัน และหลัก 4 ข้อที่พี่เป้บอกมา แล้วความรักอาจก่อตัวขึ้นโดยที่เราไม่ทันรู้ตัวก็ได้”
องค์ประกอบที่จะทำให้รักยืนยง ควรมีความเข้าใจกัน ความซื่อสัตย์ กล่าวขอโทษจากใจ และพร้อมปรับปรุงตัวเองอยู่เสมอ เพื่อให้ความสัมพันธ์นั้นดีขึ้น เพราะไม่ว่าจะเจอปัญหาหนักหนาแค่ไหน แค่มีสิ่งเหล่านี้ชีวิตคู่ของคุณก็จะผ่านพ้นปัญหาไปได้ไม่ต่างจากคู่รักคู่นี้