พ่อบุญโทน & แม่นก

ขอเชิญฟังเรื่องราวรักของเจ้าพ่อเพลงแหล่ สมชาย สุขสวัสดิ์ชล หรือพ่อบุญโทน คนหนุ่ม วันนี้เขาไม่ได้มาแปลงเพลง แต่มาเปิดหัวใจถึงความรักความผูกพันที่มีให้แก่ภรรยาคนสวยข้างกาย แม่นก กันตา วาจะเสน ซึ่งเป็นแรงหนุนและแรงกระตุ้นที่ดีจนเขามีวันนี้ได้ เธอช่วยเขาสร้างครอบครัวให้อบอุ่น และให้กำเนิดทายาทที่ตามรอยพ่อมาติดๆ ลาดา สุขสวัสดิ์ชล หรือลาดา อาร์สยาม

เพลงวันนี้จึงเป็นจังหวะสนุกปนความอบอุ่นหัวใจถึงที่สุดทีเดียว

เกลียดแบบไหนได้แบบนั้น

          ก่อนเข้าสู่เส้นทางดนตรีเต็มตัว พ่อบุญโทนเป็นช่างตัดผมผู้ชายในจังหวัดราชบุรี จนแม่นกได้มาพบในฐานะคนพาลูกค้ามาที่ร้าน แต่กามเทพก็ยังไม่แผลงศรรัก เมื่อแม่นกไม่ชอบหนุ่มร่างสูงที่ชอบร้องเพลงแปลงคนนี้

แม่นก: ไม่ค่อยคุย เพราะไม่ชอบเขาเลย เขาเป็นนักร้องวงประจำจังหวัดราชบุรี ชอบร้องเพลงแปลง ซึ่งเพลงแนวนี้มีความหมายสองแง่สองง่าม เวลาไปงานไหน แล้วเจอวงเขามาเล่นดนตรี จะพูดกับพี่สาวว่าเจออีตาคนนี้อีกแล้ว ตานักร้องลามก กลับบ้านเลย (หัวเราะ) ยังไม่ทันคุยกันเลยด้วย

พ่อบุญโทน: จากนั้นผมไปอยู่กรุงเทพฯ ได้หลายปี กลับมาเยี่ยมแม่ เจอเพื่อนๆ เพื่อนเขากับเพื่อนผมรู้จักกัน เลยได้คุยกัน ตอนนั้นผมโสดอยู่ ถามนกว่ามีแฟนหรือยัง พอรู้ว่าไม่มี ยังย้อนเลยว่าสวยขนาดนี้ไม่มีได้ยังไง (ยิ้ม) เลยมาคบกัน พาเดินสายร้องเพลงทางใต้กับพวกพี่เอกชัย ศรีวิชัย, พุ่มพวง ดวงจันทร์ สมัยนั้นไม่ได้พักโรงแรมหรอก นอนกันในรถ บางทีก็ศาลาวัด ค่ำไหนนอนนั่นตามประสาวงดนตรี การเดินทางก็เสี่ยง ลงใต้ปีละสามเดือน พอกลับมาก็แต่งงานกัน ผูกข้อมือทำพิธีไหว้ผีแบบต่างจังหวัดเรียบง่าย คนมางานสิบกว่าคนเอง บางคนมองว่า คบกันไม่นานทำไมแต่งแล้ว แต่จริงๆ เรารู้จักกันมาเก้าปี เจอตั้งแต่เขาอายุ 14-15 

 

เนื้อคู่ที่แท้จริง

พ่อบุญโทน: ผมเป็นคนเอาแต่ใจ ไม่ยอมตามใคร ผู้หญิงที่เคยคบตามผมหมด วันหนึ่งถามนกว่าผมควรแต่งตัวแบบนี้ไหม นกแนะว่าต้องแต่งแบบนั้นแบบนี้สิ คิดว่า เออ ไม่เหมือนผู้หญิงคนอื่นที่ถามอะไรก็ “แล้วแต่พี่” เวลามีปัญหาปรึกษานกแล้วได้คำตอบทุกเรื่อง (ยิ้ม) เป็นที่ปรึกษาได้ คุยกันรู้เรื่อง เราไม่ได้ขัดคอกัน ต่างช่วยออกความเห็น ถ้ามัวแต่ “แล้วแต่พี่” แต่งงานไปคงเหนื่อยตาย เพราะนำอยู่คนเดียว

แม่นก: ครอบครัวเขา ให้หัดทำงานหาเงินเอง ตอนที่มาอยู่ด้วยกันไม่มีเงิน มีแต่ชีวิตกับตัวและหัวใจ คนที่จีบเราล้วนแต่มีเงิน มีฐานะทั้งนั้น แม่ก็เชียร์ให้แต่งกับคนนั้นคนนี้ พอเขาเจอ ก็คิดว่าทำไมคนนี้เถียงเราล่ะ ผู้ชายคนอื่นที่มาจีบ ไม่มีใครเถียงเลย มีแต่ยอมเราตลอด ซึ่งผู้ชายแบบนั้นเป็นหัวหน้าครอบครัวไม่ได้แน่ ถามอะไรก็ “แล้วแต่เธอ” ต่างกับเขาที่ให้ความคิดเห็น เสนอว่าต้องแบบนั้นแบบนี้ แสดงว่าคนนี้ดี 

  พ่อบุญโทน: ผมเริ่มมีชื่อเสียง งานเยอะขึ้น นกก็ขอให้เขาทำหน้าที่รับงานแทนได้ไหม จัดตารางงานให้ เพราะสงสารที่เจ้าภาพโทร.มาจ้างงานตอนเจ็ดโมงเช้า ผมที่เพิ่งนอนตอนตีห้าก็ต้องตื่นมาจดงานผิดๆ ถูกๆ และสมัยนั้นแผนที่ไม่ค่อยมี ต้องโทร.ถามเจ้าภาพว่าเลี้ยวตรงไหนยังไง นกจัดการได้ดี เลยรู้สึกพึ่งพาอาศัยได้ ผมไม่สามารถเป็นผู้นำคนเดียวนะ บางเรื่องต้องให้เขาจัดการ

   แม่นก: ต้องศึกษาว่าจากกรุงเทพฯ ไปจังหวัดนั้นยังไง กี่ร้อยกิโล แล้ววิ่งรอกได้ไหม เสร็จงานนี้แล้วไปอีกงานได้หรือไม่ สมัยก่อนคาเฟ่ดังๆ เล่นครั้งละ 600-800 บาทต่อที่ วิ่งสี่ที่ต่อคืน เห็นสภาพแล้วเหนื่อย ให้ลองรับงานต่างจังหวัดดีกว่าวิ่งรอกแบบนี้ ยิ่งสมัยก่อนเศรษฐกิจดีมาก ครั้งละเป็นหมื่น รับงานบวชบ้านนี้เสร็จแล้วไปงานอีกที่ยังได้

 

ทุกข์สุขร่วมเผชิญ

                ช่วงสุขก็สุขด้วยกัน ช่วงทุกข์ก็ทุกข์ด้วย นี่แหละคือบททดสอบที่แท้จริงของคู่ชีวิต ดังเช่นพ่อบุญโทนกับแม่นกที่เจอช่วงมรสุมใหญ่เข้ามา งานหาย เงินหมด ลำบากลำบนอยู่นานกว่าจะได้ลืมตาอ้าปากอีกครั้ง แต่ครั้งนั้นคือบทเรียนสำคัญที่ทำให้พ่อบุญโทนได้คำตอบชัดเจนในใจ

         พ่อบุญโทน: เวลาทำอะไรให้นึกว่าตอนลำบาก เขานอนทุกข์กับเรา เวลาพอเรามี เขาก็ต้องอยู่ด้วยเหมือนเดิม เราสองคนแบ่งกันกินมาม่า ตกต่ำหมดเงินอยู่นาน ก็แต่งเพลง อัดเพลงวันแรกก็ได้มาสองแสนห้า อีกเดือนดังเลย เข้ามาวันละแสน เอาเงินไปซื้อที่ เหลือไม่กี่หมื่น เก็บใหม่ เริ่มต้นใหม่ นกบอกว่าเราต้องมีบ้านอยู่แล้วนะ เช่าอยู่แบบนี้อนาคตจะไม่มีอะไร ผมถามว่าเอาเงินที่ไหนไปปลูกบ้าน เพราะผมไม่ชอบบ้านที่ขายเป็นหลังๆ หน้าตาเหมือนกันหมด นกเลยเปิดสมุดจดงานให้ดู แจกแจงว่าจะมีงานนี้เข้ามา ได้เงินเท่านี้ วางมัดจำเท่านี้ จะเหลือเท่านี้ เขาเก่งนะ ผมไม่เป็นเรื่องพวกนี้เลย

          แม่นก: ดีที่มีในตอนที่ผ่านเรื่องมาแล้ว ไม่งั้นหมดเหมือนเดิม เพราะก่อนนั้นเราปล่อยให้เขาไปเที่ยวกับลูกน้อง ให้ทำอย่างที่อยากทำ จนหมดสัญญากับค่ายเก่า เงินก็ไม่มี ที่ใหม่ก็ไม่มี ลำบากอยู่นาน มีพี่โทร.ชวนให้ไปทำงานที่บริษัทสมาร์ทบอม มีน้องเท่ห์ อุเทน พรหมมินทร์ อยู่ ตอนนั้นเท่ห์กำลังดัง เลยเอาเพลงมาแปลง ทำให้ฟื้นขึ้นมาได้ แล้วพอทำบ้านก็โดนผู้รับเหมาโกงอีก หมดไปสองล้านยังไม่ได้บ้านเลย สรุปบ้านนี้หมดไปสี่ล้าน

         พ่อบุญโทน: ตอนขึ้นบ้านใหม่เราไม่เหลือเงินสักบาท (หัวเราะ) ตั้งแต่นั้นมาพอมีเงิน ก็เก็บเป็นของเลย กลัวหมดอีก พอมีบ้านก็คิดแล้วว่าถ้าเรามีลูกล่ะ คนจีนที่ราชบุรีชอบซื้อคอนโดฯ ที่กรุงเทพฯ เพื่อส่งลูกมาเรียนกรุงเทพฯ ไม่ต้องตีรถไปกลับ ค้างได้เลย ผมก็เดินตามเขา คนจีนวางแผนไว้ดี หันไปบอกแม่นก เราต้องซื้อคอนโดฯ ละ

 

ทองเนื้อแท้

         พ่อบุญโทน: อยู่กันวันแรกก็รู้แล้วว่าคนคนนี้ยอมตกระกำลำบากกับเรา บางคู่ศึกษาชีวิตซึ่งกันและกันน้อยไปหน่อย และบางคู่ก็มากไปหน่อย น้อยไปคือคบกันสั้นๆ สวยอยากได้ หล่ออยากดี ส่วนที่นานคือคบกันจนเบื่อ แต่อีกคนเลิกไม่ได้ต้องแต่งงาน พอแต่งแล้วก็มีความคิดว่าไม่น่าแต่งเลย จะผู้หญิงหรือผู้ชาย วันแรกที่เจอกันนิสัยเป็นไงเปิดเผยให้หมด แสดงออกมาเลยว่าฉันมีความคิดเห็นแบบนี้ เป็นคนแบบนี้ แล้วเธอเป็นไง อย่าคิดว่าอนาคตค่อยว่ากัน ไม่ได้นะ เกิดวันแรกตามใจทุกอย่าง ทำไมนานไปขัดใจฉันตลอด ก็กลายเป็น รู้แบบนี้ไม่น่าแต่ง คนที่เลิกกันจะพูดแบบนี้ทุกคน

          แม่นก: ความรักนานวันเริ่มจางลง มีแต่ความผูกพันเพิ่มขึ้น ไม่เจอก็ไม่ได้ แต่เห็นก็เบื่อ (หัวเราะ) ห่วงแต่ลูก สามีก็น้อยใจ บ่นว่าดูแต่ลูก ไม่ดูแลเขาเลย (ยิ้ม) เริ่มรู้ละว่าทิ้งเขาให้เหงา บอกลูกว่าถ้างานไหนพาป๊าไปได้ พาไปด้วยกันนะ ชีวิตคู่ต้องมีความผูกพัน และการให้อภัยสำคัญที่สุด ผู้ชายมีเที่ยวอยู่แล้ว คนอื่นรับไม่ได้ที่สามีไปนั่งร้านที่มีสาวๆ แต่เราขับรถไปรับส่งที่หน้าร้านให้เลย เพื่อนเขาหลบกันใหญ่ (หัวเราะ) อยากได้ไปซื้อกิน ขออย่างเดียวอย่ามีเมียน้อย ผู้หญิงทุกคนทนไม่ได้ พอเราให้อนุญาตสามียิ่งเกรงใจ ไม่ไปเที่ยวไหน เบื่อแล้ว และพี่เขาเป็นคนไม่โกหก จะเล่าหมดว่าไปไหนมา เจอใครมา เลยสบายใจ เราเป็นคนไม่หวง ขอให้รักครอบครัว อย่าไปค้างที่อื่น ถึงเวลากลับบ้าน

         พ่อบุญโทน: เจอกันวันแรกบอกเลยว่า ผมเป็นคนดื่มนะ เพราะอยู่ร้านอาหาร ถ้าไม่ดื่มเขาก็ไม่ให้รางวัล แต่ไม่สูบบุหรี่ ไม่มีเมียน้อย ผมทำงานอยู่ห้องอาหารตั้งแต่ประถม เจอทั้งผู้หญิง ผู้ชาย เด็กเสิร์ฟ เหล้าบุหรี่ แคชเชียร์เป็นเมียนักดนตรี คนนั้นได้เมียเด็กเสิร์ฟ ทะเลาะเบาะแว้งกัน สังคมคนกลางคืนวุ่นวาย นกรู้จักให้โดยธรรมชาติ ให้ผมไปกับเพื่อน กินกันยันสว่าง ไม่ตาม ไม่โทร.ถาม บอกแค่ไปกับใครยังไงก็พอ เราก็ละอายใจ จะมีเมียคนไหนดีแบบนี้ เพื่อนทุกคนพูดเลยว่าผมมีอภิชาติเมีย (ยิ้ม) อยากได้เมียแบบนี้ ให้ไปหาเอาเอง (หัวเราะ) บางครั้งไปงานก็มีผู้หญิงมานั่งด้วย นกอยู่ตรงนั้นก็เฉย ไม่ว่าอะไร บางคู่ตีกันตายไปแล้ว หรือบางคนเมียปล่อยให้ไป ก็หายไปเลย คือไม่คิดถึงความดีของเมีย ผู้ชายต้องเห็นความดีของผู้หญิง ต้องทำตัวเป็นผู้ชายที่ดีบ้าง

 

ผัวหาบเมียคอน

พ่อบุญโทน: สถาบันครอบครัวมีได้สถาบันเดียว ถ้ามีบ้านหลายหลัง มีเมียหลายคน ยุ่งเหยิงวุ่นวาย เพื่อนผมเป็นแบบนี้จริง ตอนแรกยิ้ม มีเมียสองคน พอลูกเมียสองบ้านไม่ดีกัน มีปัญหาก็ไล่ บอกให้พ่อไปบ้านนั้นสิ หรือบ้านนี้ไม่มีเงินก็บอกว่าพ่อให้แต่บ้านนั้น โห ชีวิตโคตรวุ่นวาย และวลีประจำที่ได้ยินเสมอคือ “เขาดีเกินไป เราไม่เข้าใจกัน” จริงๆ ไม่ได้ดีเกินไปหรือไม่เข้าใจกันหรอก แต่ความไม่พอทำให้ไปไม่รอด

แม่นก: หลักบ้านเราคือให้และอภัย หลายคนบอกหมดโปรฯ แล้วความรักไม่มีเหลือ ที่จริงความรักไม่ใช่แค่รัก แต่มันเป็นความผูกพัน เวลาป๊ามาคอนโดฯ ลาดาชอบแซวว่าคนเสียงดังมาแล้ว ไม่สงบแล้วนะ (ยิ้ม) แต่พอป๊ากลับบ้าน ก็ห่วง ถามว่าถึงหรือยัง กลับยัง มันคือความผูกพันที่เลิกกันไม่ได้

พ่อบุญโทน: ที่เราอยู่ด้วยกันได้เพราะช่วยกันทำงาน หลายคู่สามีทำงานนอกบ้าน เมียทำงานในบ้านเลี้ยงลูก หรือต่างฝ่ายต่างไปทำงาน กลางคืนกลับมาเจอกัน สองอย่างนี้ถ้าไม่ประคองให้ดีก็ไม่รอด ที่ผมรอดเพราะทำงานด้วยกัน อย่างมีถ่ายละครแต่เช้า นกไปด้วย บางทีผมง่วง เขาก็ขับรถแทน มีงานร้องเพลง นกแต่งหน้าทำผมให้ เก็บเงินจากเจ้าภาพ ดูแลให้หมด สามีภรรยาที่ทำงานด้วยกัน เที่ยวด้วยกัน กินนอนเหมือนกัน โอกาสที่จะเลิกกันนั้นยาก มีที่อยู่ด้วยกันแล้วเบื่อ แต่มีลูกแล้วยังไงก็อยู่ด้วยกันจนตาย ทุกอย่างเราสองคนไม่ได้ทำเพื่อตัวเองแล้วละ ทำเพื่อลูกแทน

         “เมื่อมีลูก ทุกอย่างมุ่งไปที่ลูก เลี้ยงให้ดีแล้วครอบครัวจะเจริญ หน้าที่ผมคือทำงาน บางงานผมไปกับลูกน้อง ฝากนกดูแลลูกให้ดี จนตอนนี้ลูกกับแม่หน้าตาเหมือนกัน นิสัยเหมือนกัน พูดเร็วเหมือนกัน (หัวเราะทั้งคู่) นกดูแลลูกอย่างดี ขัดเกลา คอยสอน ประคบประหงม สอนทุกอย่าง ชีวิตคนเราถ้าไม่มีลูก จะเอาอะไรเป็นที่พึ่งทางใจ”

 

ปัญหาแก้ไม่ยากถ้ายอมกัน

พ่อบุญโทน: แนะให้ทุกคู่เอาวิธีนี้ไปใช้ ผัวเมียเถียงกันต้องแบบนักโต้วาที คุณเอาไปก่อนหนึ่งนาที พูดมา แล้วตาผมพูดต่อ กว่าจะรอแต่ละนาทีก็เย็นไปแล้ว ถ้าพูดคำโต้คำ ทะเลาะกันล่ะ คู่ไหนทะเลาะกันบ่อยๆ เลิกกันง่าย อยู่กันไม่ได้หรอก มันสั่งสม เหมือนตกตะกอนรอกวนให้ขุ่น

แม่นก: เราต้องรอให้อีกฝ่ายเย็นก่อนแล้วค่อยคุย ไม่มาเถียงกัน ฟังเขาจนจบแล้วเรามีความคิดเห็นยังไงก็บอกเขาไป บางทีพูดมากก็ปล่อยทั้งคืนเลย เช้ามาเงียบละ แถมลืมด้วยว่ามีเรื่องอะไร (หัวเราะทั้งคู่) เรื่องลูกก็เหมือนกัน ถ้าแม่กำลังอบรบอยู่ ป๊าห้ามเข้ามา หรือถ้าป๊าสอนอยู่ แม่ก็ไม่เข้าไป

พ่อบุญโทน: เดี๋ยวเป็นการให้ท้ายลูก ลูกจะรักพ่อแม่ไม่เท่ากัน เวลาลาดาดื้อ ผมจะให้ทุกคนไปอยู่หลังบ้านหมด เหลือผมกับลูกหน้าบ้าน และอบรมตรงนั้น อบรมเหมือนครูสอนนักเรียน มารยาทความถูกต้อง อย่าดื้อดึงเอาแต่ใจตัวเอง ลูกรู้ว่าทำผิดในเรื่องไหน อย่าทำ จะเป็นนิสัยเสียในตอนโต ลูกร้องวี้ดๆ ไม่ดีนะ เสียงวี้ดๆ ทำให้ป๊าเจ็บหู แล้วเสียงลูกก็จะเสียด้วย จะเป็นนักร้องไม่ได้นะ ทั้งปลอบ ดุ ชม แต่อย่าตี ไม่เคยตีลูกสักครั้ง ลูกขอโทษก็กอดกันหอมกัน

 

ลดตัวเอง เติมครอบครัว

แม่นก: ผู้หญิงอย่ามานั่งเถียงกัน ให้ฟังอีกฝ่าย ถ้าโมโหก็ให้เดินหนีไปก่อน พอเย็นแล้วค่อยกลับมาคุยกัน และสำคัญคือการให้อภัย เราต้องอยู่ด้วยกันตลอดชีวิต เรื่องไหนปล่อยได้ปล่อย เตือนได้เตือน ลืมบางเรื่องไปบ้าง อย่าไปฟังคนอื่นเยอะ ชีวิตคู่ไม่ได้อยู่กับชาวบ้าน อยู่กันแค่คนสองคน สามีภรรยาต้องคุยกัน อย่าให้คนนอกมาก้าวก่ายในเรื่องของเรา ตรงนี้สำคัญมาก

พ่อบุญโทน: ผมเข้าใจผู้ชายนะ วันแรกที่แต่งงานผู้หญิงคนนั้นสวยที่สุดสำหรับคุณ หลังจากแต่งแล้วอย่าดูแค่ภายนอก ต้องดูภายในจิตใจของเขาว่าสวยไหม อย่าเอาตัวเราเป็นใหญ่ ต้องดูว่าคนที่อยู่ด้วยเขาดีขนาดไหน หลังจากที่ข้างนอกเหี่ยวเฉา เริ่มแก่ โรยรา สายตาสั้น หนังหย่อน แต่ในใจสดชื่นสดใสเต่งตึงตลอดเวลา วันแรกสวยนอก ต่อๆ มาคือสวยใน คิดแบบนี้แล้วไม่มีใครเลิกกันหรอก ผู้ชายต้องเป็นหัวหน้าครอบครัวให้ดีที่สุด ถ้ามีลูก หน่อไม้เริ่มแตกหน่อแล้ว ผู้ชายที่ดีต้องทำให้หน่อไม้ที่เราสร้างขึ้นมาโตให้ได้ โตให้สมบูรณ์มีอนาคต  

          “การที่เราสร้างเด็กขึ้นมาหนึ่งคนบนโลกนี้ อย่าผลักไสลูกให้เป็นภาระของสังคม ควรเป็นภาระของพ่อแม่เท่านั้น ผมไม่เคยบอกว่าครอบครัวผมล้ำเลิศประเสริฐศรี แต่พูดได้ว่าลูกผมไม่เคยเป็นภาระของสังคมเลย ทำข้อนี้ได้คุณเป็นผู้ชายที่ดีที่สุด อย่าคิดว่าทำงานเป็นหลัก หาเงินเป็นใหญ่ หามาแทบตายลูกไม่ได้ใช้เพราะไปเสียคน ติดคุกติดตะราง ต้องคิดให้ดี มีโฆษณาที่บอกว่าวันนี้เรากอดกันหรือยัง หอมกันหรือยัง บ้านผมก็ทำ มันสำคัญนะ”

 

แม่นก: ทุกวันนี้สามคนพ่อแม่ลูกยังหอมแก้มซ้ายขวาหน้าผากก่อนออกจากบ้าน

 

รักที่ถูกต้องไม่ใช่ที่ถูกใจ

พ่อบุญโทน: ผมบอกเด็กวัยรุ่นทุกคนว่า การเลือกคู่เพราะถูกใจนั้นไม่ถูกต้อง ถ้าเลือกถูกต้องอาจไม่ถูกใจ เลือกหล่อสวย สักวันก็ไม่หล่อไม่สวย อย่าเอาข้างนอกเป็นหลัก อย่าเอาความรักเป็นหลัก อย่าเอาทรัพย์สินมาตัดสินความรัก เราต้องเอาความถูกต้องของคนสองคนที่จะมาอยู่ด้วยกัน แล้วเราจะมีความสุขตลอดชีวิต เพราะมีความถูกต้องในครอบครัวเท่านั้น คนที่เป็นแบบนี้จะเป็นครอบครัวที่ยั่งยืน พวกถูกใจจะไม่รอด

แม่นก: ลาดาจะบอกทุกอย่างว่ามีคนมาจีบแบบนี้ ลูกเต้าเหล่าใคร คุณแม่โอเคไหม ถ้าคุณแม่ไม่โอเค ลูกจะไม่คุยต่อด้วย แล้วถ้าใครมาชอบ ถ้าไม่รักครอบครัวเรา ลาดาไม่คุยด้วย ลาดาเป็นคนรุ่นใหม่ที่ได้อะไรจากพ่อแม่ไปเยอะ จะสอนเหมือนที่ป๊าบอกคือ อย่าเอาความถูกใจ ให้เอาความถูกต้อง อย่าเอาของเพื่อน ของพี่ ของน้อง ห้ามแตะห้ามยุ่ง ของคนใกล้ตัวอย่าไปอยากได้ บางทีถูกใจเราแต่มันไม่ถูกต้อง

พ่อบุญโทน: พ่อแม่เป็นแม่พิมพ์ของลูก พิมพ์ลูกมาสักคน เขาก็ต้องดูว่าทำไมพ่อแม่ถึงอยู่ด้วยกันนาน ทำไมเลี้ยงดี ทำไมไม่ตามใจในสิ่งผิด ไม่ใช่พ่อแม่รังแกฉัน อยากได้อะไรหัดทำงานซื้อเอง พ่อแม่ซื้อให้ได้นะ แต่เขาจะทำเองไม่เป็น กลายเป็นว่าเดี๋ยวรอผู้ชายซื้อให้ มาหลอกอีก ยุ่งเลย

 

แทนความห่วงใยที่มีให้กัน

พ่อบุญโทน: ผมชอบบ่น เมื่อก่อนพูดมาก ตอนนี้ก็ยังพูดมาก ขอโทษด้วย เมื่อก่อนผมขอโทษไม่เป็น ผู้ชายบางทีถือว่าตัวเองเป็นใหญ่ เป็นหัวหน้าครอบครัว หาเงินเข้าบ้าน แค่ขอโทษเมียสักที แค่นี้เมียก็ชื่นใจแล้ว

แม่นก: ห่วงเรื่องสุขภาพอย่างเดียว ตอนนี้เขาดูแลตัวเอง แต่ไม่ออกกำลังกาย ชอบพูดว่าลงจากเตียงและวิ่งรอบเตียงแค่นี้ก็เหนื่อยแล้ว ถือว่าออกกำลังแล้ว (หัวเราะชอบใจ) เรากับลูกพอว่างก็แวะฟิตเนส เพราะต้องอยู่กับลูกให้นานที่สุด ลาดายังอายุน้อย กว่าจะแต่งงาน มีครอบครัว บอกเสมอว่าถ้าอยากอยู่กับลูกนานๆ ต้องออกกำลังกาย

 

ถ้านี่คือนาทีสุดท้าย

            พ่อบุญโทนนิ่งไปชั่วขณะ ก่อนจะยิ้มออกมาพร้อมหันไปหาแม่นก เพื่อบอกความในใจ

พ่อบุญโทน: 1. คือสำนึกผิด 2. ฝากฝังสิ่งที่ผมห่วงหวง 3. อธิษฐานเลยชาติหน้ามีจริงขอให้สิ่งเหล่านี้ได้เกิดขึ้นมาอีก เพราะเราอยู่ด้วยกันแล้วมันดีมาก ผมคิดอยู่แค่นี้จริงๆ เราเจอคนดีแล้วจะหนีไปไหน

แม่นก: ก็เหมือนกัน แต่ฝากย้ำเลยว่าต้องดูแลลูกให้ดี

 

HUG MAGAZINE

รักไม่รู้จบ

มาศวดี ถนอมพงษ์พันธ์

ถึงผู้ชายทุกคน

                 "เมื่อเกิดมาทุกคนมีภาระหน้าที่ ยังเด็กอยู่ก็ต้องไปเรียน ผู้ชายเป็นผู้สร้างภาระให้ครอบครัวและช่วยแบกภาระให้ครอบครัว คำว่า “ภาระ” นี้ไม่ใช่สิ่งหนักหนา เป็นสิ่งที่ช่วยกันรับและแบกไว้ ถ้ารับคนเดียวจะหนักมาก ถ้ารับสามคนไม่หนัก เหมือนซุงท่อนหนึ่ง แบกคนเดียวหนักบ่า มีผู้หญิงคนหนึ่งมาช่วยแบก ก็เบาขึ้น มีลูกมาช่วยแบกอีก ก็สบายและไปได้อย่างราบรื่น เป็นครอบครัวที่ดีได้ แต่ต้องช่วยกันแบก ไม่ใช่ช่วยกันนั่งเฉยๆ นะ (ยิ้ม)"