เมื่อสามีกล่าวหาว่าดิฉันโง่
: คุยชีวิตกับจิตแพทย์

____________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________

 

“ดิฉันอยากเลิกกับสามีค่ะ”

 

 

สุภาพสตรีที่ดูดีมากในวัยสี่สิบเอ่ยขึ้นอย่างมั่นใจ จนต้องถามทวนอีกครั้งว่ามาพบจิตแพทย์เพราะอะไร เนื่องจากดูไม่ได้เครียดหรือมีปัญหาสุขภาพจิต

“ดิฉันโทร.ปรึกษาเพื่อนเรื่องปัญหากับสามีค่ะ มีเพื่อนคนหนึ่งบอกว่าก่อนจะเลิกควรไปปรึกษาจิตแพทย์ ดิฉันก็เลยมาพบคุณหมอค่ะ”

“แล้วคุณจะเลิกกับสามีเพราะอะไรคะ อยู่กันมานานแค่ไหนแล้ว มีลูกหรือยังคะ”

“ดิฉันแต่งงานกับสามีมา 6 ปีแล้วค่ะ มีลูกด้วยกัน 2 คน แต่ไม่มีความสุขเลย สามีเป็นคนสมบูรณ์พร้อมทุกอย่าง รูปร่างหน้าตาดีมาก มีเสน่ห์ หน้าที่การงานดี รายได้สูง ลูกติดเขามากเพราะเขาชอบเล่นกับลูก แต่ดิฉันมักจะสอนลูกให้มีวินัย ลูกเลยค่อนข้างกลัวดิฉัน ตอนหลังสามีมีปัญหาเรื่องผู้หญิง จับได้คาหนังคาเขาแล้วเขาก็ยังปฏิเสธ ไม่ใช่ครั้งเดียวด้วยนะคะ และเขามักจะพูดดูถูกดิฉันว่าโง่ ไม่ให้เกียรติ ดิฉันไปอยู่บ้านสามี ทางแม่เขาก็เข้าข้างลูกชายตลอด”

“ดิฉันตั้งท้อง เลยจำเป็นต้องแต่งงาน ก่อนแต่งงานเขาเป็นคนดีมาก ให้เกียรติดิฉันทุกอย่าง แต่หลังแต่งงานก็เปลี่ยนเป็นคนละคนเลย เจ้าชู้มาก ชอบพูดทำร้ายจิตใจ บางทีก็ใช้กำลัง”

 

 

 

ดูเหมือนคุณตัดสินใจแน่นอนว่าจะเลิก แล้วตอนนี้ยังติดขัดเรื่องอะไรคะถึงยังไม่เลิก

“ดิฉันยังต้องพึ่งพาเงินจากสามีค่ะ ตอนนี้ดิฉันลาออกจากงานมาเรียนต่อจึงไม่มีรายได้ ถ้าเรียนจบแล้วกลับไปทำงาน ดิฉันก็จะดำเนินการหย่าทันที ปรึกษาทนายไว้แล้วค่ะ”

“ส่วนเรื่องลูกคงต้องช่วยกันดูแลเรื่องค่าใช้จ่าย ตอนนี้พ่อแม่ดิฉันช่วยดูแลอยู่ ดิฉันไปเยี่ยมลูกวันหยุด คิดว่าชีวิตหลังหย่าคงไม่เปลี่ยนอะไรมาก ช่วงหลังสามีดิฉันเขาก็ไม่คอยไปเยี่ยมลูกกับดิฉันแล้วค่ะ ไปแค่นานๆ ครั้ง”

 

 

 

ฟังแล้ว สุภาพสตรีท่านนี้เตรียมความพร้อมไว้ทุกอย่าง แต่คนที่รอวันนัดจิตแพทย์ตั้งนานแล้วก็มานั่งรอคิวนานๆ อาจต้องการบางอย่างนอกเหนือจากมาเล่าให้จิตแพทย์ฟังเฉยๆ เดาว่าเธอน่าจะต้องการคนช่วยยืนยันว่าสิ่งที่เธอคิดนั้นถูกต้อง

 

“แล้วคนอื่นๆ คิดอย่างไรคะ พ่อแม่หรือเพื่อนของคุณ”

“พ่อแม่เห็นสภาพดิฉันก็เลยไม่คัดค้านค่ะ ส่วนเพื่อนก็ไม่ค่อยช่วยอะไร บางคนบอกว่าอย่าเลิกเลย สงสารลูก บางคนบอกว่าต้องทำใจรับให้ได้ อดทน เขาไม่คิดเหรอคะว่าดิฉันอดทนมาตลอด”

“หมอพอเข้าใจว่าคุณตัดสินใจและเตรียมการพร้อมแล้ว แล้วคุณคุยกับสามีหรือยังคะ”

“คุยแล้วค่ะ เขาด่าดิฉันสารพัดว่าโง่ ไม่มีสมอง แต่ดิฉันก็ไม่ได้ตอบโต้อะไร ยังทำงานบ้านให้เขาตามปกติ คิดถึงวันที่กลับไปทำงานหาเลี้ยงตัวเองได้จะเลิก และนับวันรออยู่ทุกวันเพราะอย่างน้อยจะได้มีความหวัง”

“สิ่งที่หมอเห็นคือคุณได้ทำหน้าที่ภรรยาและแม่อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง คุณสามี ลูก และตัวเองเท่าที่สภาพครอบครัวจะเอื้ออำนวยได้ นี่คือสิ่งที่น่าชื่นชมค่ะ”

 

แล้วจู่ๆ เธอก็สะอื้นค่ะ! นั่งคุยอย่างมั่นใจมานาน แต่เธอกลับมีน้ำตาเมื่อได้รับคำชื่นชม คงเป็นคำที่เธอรอคอยมาตลอดให้มีใครสักคนเห็นคุณค่าในความพยายามและความอดทน

คนรอบตัวมีแต่ใจร้าย สงสาร วิพากษ์วิจารณ์ หรือคอยพึ่งพา ไม่มีใครเห็นความพยายามของเธอและแสดงความชื่นชมเลย ตอนเราจากกันไม่มีคำตอบหรือคำยืนยันจากจิตแพทย์ว่าเธอควรหรือไม่ควรเลิกกับสามี เธอมีอยู่แล้วทั้งคำตอบและเวลาที่จะพิสูจน์ว่าทางออกของชีวิตคู่ควรจะลงเอยแบบนี้หรือไม่

อีกหลายปีกว่าเธอจะเรียนจบ ระหว่างนี้เธออาจจะปรับตัวเข้ากับสามีได้แล้ว หรืออาจจะไม่เปลี่ยนใจก็ได้ การฟันธงวันนี้ไม่ช่วยอะไร ให้กำลังใจเพื่อให้สู้ต่อไปได้จะดีกว่าค่ะ

คอลัมน์ : คุยชีวิตกับจิตแพทย์ 

โดย พญ.วินิทรา นวลละออง