คอลัมน์ ‘หัวใจไม่จนมุม’

เรื่อง: DJ อ้อย นภาพร ไตรวิทย์วารีกุล

 

ถาม.

     ดิฉันมีครอบครัวแล้ว แล้วมีคนมารักดิฉันถึง 2 คนค่ะ เลือกไม่ถูกว่าต้องอยู่กับใคร เพราะเข็ดกับเรื่องความรัก คนที่ 1 คบกันมา 10 กว่าปี แต่เขามีอายุมากกว่าหลายรอบ คนที่ 2 พึ่งเข้ามาได้ 1 ปี เขาดูแลด้วยการหาของมาฝากตลอด แต่เขาก็มีครอบครัวนะคะ คนที่ 3 อยู่กับดิฉัน มีลูกด้วยกัน 1 คนคือลูกชายอายุ 10 กว่าปี แต่ดิฉันไม่มีใจให้แก่คนที่ 3 อยู่เพื่อลูกค่ะ ควรทำยังไงกับความรักของตัวเองดี.

 

 

ตอบ.

     มีสองชายมาติดพัน ไม่รู้เรียกได้เต็มปากไหมว่าน่าอิจฉา ตราบเท่าที่ยังมีสามีอยู่เป็นตัวเป็นตน คนมีเสน่ห์ ไม่ใช่แค่มีชายอื่นติดพัน แต่หมายถึง คนที่มีคู่รักปักใจรักเราคนเดียวได้น้านนาน ในคำถามบอกว่า ไม่อยากเลือกใคร เพราะเข็ดกับความรัก “ไม่เลือก” แต่ก็ “รวบ” ไม่ได้ค่ะ อยู่กับสามีมาจนถึงวันนี้ ความหวือหวาเร้าใจอาจน้อยลง กลายเป็นความผูกพันมั่นคง ยิ่งเป็นพ่อและแม่ของลูกแล้ว จะปล่อยตัวปล่อยใจ เอาแต่ใจ และถูกอกถูกใจกับความตื่นเต้นเร้าใจของชายอื่นไม่ได้ค่ะ ยังไงก็ต้องให้เกียรติคำว่า “แม่” ที่ลูกเรียกเรา หากคิดว่าทนอยู่กับสามีเพื่อลูก แต่ดันปันใจให้ผู้ชายอีก 2 คน ถ้าอย่างนั้นเลิกกันไปให้ชัดๆ ลูกยังไม่ร้าวรานเท่านี้นะคะ

     ไม่กล้าบอกเลิกแต่กล้านอกใจ หายนะครั้งใหญ่ๆ มักเริ่มต้นจากความคิดที่ว่า “ไม่น่าจะเป็นอะไร” ลงท้ายก็บานปลายกลายเป็นเรื่องใหญ่

     คนที่ 1 คบกันตั้ง 10 ปีไม่มีท่าทีว่าอยากใช้ชีวิตครอบครัวกับเราหรือคะ หรือเพราะเขาไม่คิดจริงจังด้วย อยากได้ก็มา อยากลาก็ไป คบซ้อนกับคนอื่นๆ เช่นกันหรือเปล่า อย่าคิดว่าเราเป็นฝ่ายกระทำเพียงฝ่ายเดียว เห็นมาเยอะ นึกว่าเราคือผู้เลือก แต่ที่จริงคือ 1 ในหลายตัวเลือกที่เขาไม่ได้คิดจะเลือกมาตั้งนานแล้ว

     คนที่ 2 เขามีครอบครัวอยู่แล้ว เราอยู่ในฐานะอะไรคะ เป็นชู้อย่างเต็มใจ ไร้ตัวตน เป็นคนในเงาซ่อนไว้ไม่ให้ภรรยาเขารู้ อยู่แบบนี้ไร้ค่าไปไหม บอกว่าเข็ดกับความรัก แล้วตอนนี้เราไปทำคนอื่นทำไม รักของเราต้องไม่ทำร้ายหัวใจใคร พิษภัยความเจ็บหนักหนาขนาดไหน เราเคยรู้ดี แล้วตอนนี้เราดันทำเอง

     คนที่ 3 ไม่เลือกก็ต้องเลือกค่ะ ไม่ค่อยรักเท่าไหร่ แต่มีลูกกับเขาแล้ว เมื่อเลือกแบบไหน ก็ต้องรับผิดชอบสิ่งที่เลือก เขาคงเคยเป็นคนดีถูกใจในยามที่ต้องเลือก และเมื่อเดินด้วยกันมาไกลขนาดนี้ ถอยไม่ได้ ก็ต้องทำหน้าที่สุดความสามารถ ถ้าหยุดที่เขาไม่ได้ ต้องบอกเลิกให้จบไป ไม่ใช่นอกใจอย่างที่กำลังเป็นอยู่

     ผู้ชาย 2 คนนั้นแค่มาเจอชั่วครู่ชั่วยาม หันมุมดีๆ เข้าหากัน ถ้าต้องอยู่ด้วยทุกวัน จะรับกันได้จริงๆ หรือเปล่า ผู้ชายที่รักมา 10 ปี แต่ไม่มีความคืบหน้าในความสัมพันธ์ ผู้ชายที่หาของมาให้ทุกวัน แต่เป็นสามีชาวบ้าน ให้เลิกกับภรรยาเพื่อผู้หญิงที่ทรยศสามีอย่างเรา จะมีคุณค่าตรงไหน ผู้หญิงที่ผู้ชายคนนั้นกอดที คนนี้ก็กอดได้ เราลดคุณค่าตัวเองมากไปหรือเปล่าต้องถามใจดู

     ผู้ชายในชีวิตทั้ง 3 คนรู้ไหมว่าเราไม่มีความซื่อสัตย์ให้เขาเลย สามีเผลอ ก็มาเจอกับอีกคน วนลูปไป

อย่าบอกว่า “รัก” ใคร ถ้าความซื่อสัตย์ง่ายๆ เรายังมีให้เขาไม่ได้

     พิจารณาจากสิ่งที่เล่า เหมือนไม่ได้รักใครยกเว้นตัวเอง จนเรียกว่า “เห็นแก่ตัว” และไม่แคร์หัวใจใคร ไม่ว่าเป็นผู้ชายคนไหน หรือแม้แต่ภรรยาของคนที่เราคบด้วยก็ตาม เป็นตัวจริงอยู่ดีๆ อยากไปมีชีวิตเป็นส่วนเกิน เป็นของแถมนอกบ้านของคนอื่น แล้วบอกว่าเข็ดกับความรัก ดูย้อนแย้งกันสิ้นดี

     ถ้าความรักเคยทำให้เราเจ็บ เราต้องเข็ด และไม่พาตัวเองไปเจ็บกับเรื่องซ้ำๆ ที่เปลี่ยนจากผู้ถูกกระทำมาเป็นผู้กระทำซะเอง มีคนมารักตั้งหลายคน แต่แปลกไหม ที่ไม่มีใครทำให้สุขใจหรืออุ่นใจได้จริงๆ ความรักไม่ใช่แค่รัก ต้องมีความเข้าใจ และเหนือสิ่งอื่นใด คือความซื่อสัตย์ที่ให้กันได้ไม่ยาก ในวันที่เรารักใครซักคนมากพอค่ะ.