เป้าหมายชีวิตคือพิชิตใจเธอ                    สอง-บุตรี เผือดผ่อง & ไอ-เป็นเอก การะเกตุ

เมื่อความรักเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยผลักดันให้เขาและเธอก้าวไปข้างหน้า สอง-บุตรี & ไอ-เป็นเอก อดีตนักกีฬาเทควันโดทีมชาติไทย จึงตัดสินใจทุ่มเทเวลาเพื่อออกเดินทาง สร้างชีวิตใหม่ให้มั่นคงยิ่งกว่าเดิม

_____________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________

 

 

จากเพื่อนสู่คนรู้ใจ

สำหรับคอกีฬาเทควันโด คงไม่มีใครที่ไม่รู้จัก สอง-บุตรี และไอ-เป็นเอก คู่รักนักเทควันโดชื่อดัง เจ้าสาวนั้นสวยสตรอง ดีกรีเหรียญเงิน กีฬาโอลิมปิก ปี 2008 ส่วนเจ้าบ่าวยังก็ไม่น้อยหน้า ดีกรีอันดับ 4 กีฬาโอลิมปิก ปี 2012 ย้อนกลับไปจุดเริ่มต้นของความรักครั้งนี้เมื่อปลายปี 2560 หนุ่มไอเล่าว่า ทั้งคู่ต่างเป็นนักกีฬาเทควันโด จึงมีโอกาสพบปะกันตอนฝึกซ้อมทีมชาติ และได้ไปแข่งขันในทัวร์นาเมนต์เดียวกัน ทำให้รู้จักและมีความใกล้ชิดจนความรักค่อยๆ ก่อตัวขึ้นทีละน้อย

 “ตอนอายุประมาณ 19-20 เริ่มคุยและคบหาเหมือนคู่อื่นๆ ที่ซ้อมกัน เขาใกล้จะเลิกไปแข่งโอลิมปิกแล้ว แต่ผมกำลังจะไป เราคุยกันสักพักแบบปิดบัง เพราะเราทั้งคู่เป็นนักกีฬาทีมชาติ คนรู้จักรอบตัวและครอบครัวของเราสนิทกัน ก็คบกันจริงจังพอสมควร ก่อนผมจะไปแข่งโอลิมปิก โค้ชก็เรียกคุยว่า ถ้าผมมีสมาธิไม่มากพอ อาจไม่ประสบความสำเร็จ ผมจึงต้องทุ่มเทเต็มที่และตั้งใจซ้อม” หากถามว่าในวัยนั้นทำไมเขาถึงเลือกจริงจังกับความรักควบคู่กับการเป็นนักกีฬาเทควันโด ไอตอบว่า “ผมมีทัศนคติในเรื่องนี้ค่อนข้างจริงจัง พ่อก็ย้ำว่าถ้าคบกับสองนั้นไม่เหมือนคบกับคนทั่วไปนะ เพราะพ่อรู้จักเขามาตั้งแต่เด็ก สองเป็นคนเก่ง แต่เรากลับรู้สึกว่านั่นคือสิ่งที่ทำให้เราเข้ากันได้ ตอนที่จีบกันตั้งแต่แรกก็บอกสองว่าเราจริงจังนะ คิดไปถึงแต่งงานเลย”

ส่วนสาวนักเทควันโดเล่าต่อว่า “ตอนที่เขามาบอกก็ไม่ได้เชื่อ เพราะรู้จักกันและรู้ว่าตอนเป็นเพื่อนเขาเป็นยังไง เราไม่ได้โฟกัสถึงแต่งงาน ตั้งใจว่าคงคุยกันไปเรื่อยๆ ก่อนพูดคุยกันเรามองเขาอีกอย่างหนึ่ง พอคุยกันจริงๆ เขาไม่ได้เป็นอย่างที่เราเห็นเลย” แม้ว่าสองและไอกำลังปลูกต้นรักกันอย่างจริงจัง พวกเขาก็ไม่ลืมหน้าที่ความรับผิดชอบในฐานะนักกีฬาทีมชาติแต่อย่างใด

 

ลิมิตเวลาเพื่อรักเรา

ช่วงที่ไอและสองคบหากันนั้นคาบเกี่ยวระหว่างวัยรุ่นกับวัยทำงาน นับเป็นอุปสรรคในความสัมพันธ์ของทั้งคู่ ประเด็นนี้หนุ่มไออธิบายว่า ตอนเรียนมหาวิทยาลัย เขาเรียนด้านสถาปัตยกรรมซึ่งเรียนหนักมาก ต้องแบ่งเวลาซ้อมเทควันโดด้วย และเวลาส่วนหนึ่งให้เพื่อน จนบางครั้งไม่มีเวลาให้แฟนสาว กระทั่งทะเลาะกันอยู่บ่อยครั้ง ลงท้ายทั้งสองได้ทำข้อตกลงเรื่องระยะเวลาในการปรับปรุงตัวเองเพื่อให้รักดีขึ้นกว่าเดิม

สองอธิบายถึงปัญหานี้ว่า “เขาขอลิมิตเวลา เราก็เข้าใจว่าที่ผ่านมาเขาซ้อมตลอด และเรียนสถาปัตย์ การทำงานดึก แล้วสังสรรค์กับเพื่อนนั้นเป็นเรื่องปกติ แต่พอเอาเรื่องเรียนกับเรื่องการอยู่กับเพื่อนมารวมกันปัญหาของเราจึงยาก เขาบอกว่าเป็นแค่ช่วงนี้ อีกไม่กี่เดือนก็เรียนจบแล้ว แต่ถ้าเรียนจบยังทำตัวแบบนี้อยู่ก็เลิกกัน สุดท้ายพอเขาเรียนจบก็ไม่มีปัญหาเดิมเกิดขึ้นจริงๆ”

“ประเด็นคือตอนนั้นอยู่ในช่วงวัดใจ เพราะเราอยู่ในช่วงคาบเกี่ยวกับการเป็นวัยรุ่นที่กำลังก้าวสู่การเป็นผู้ใหญ่ ปัญหาที่ผมเคยทนไม่ได้ ตอนนี้กลายเป็นเรื่องธรรมดามากที่ผมไม่ตอบโต้แล้วทิ้งมันไป ไม่ต้องคุยหรือโกรธกันด้วยซ้ำ เขาก็เหมือนกัน การทะเลาะกันเป็นเรื่องธรรมดา อยู่ที่ว่าเราตั้งสติได้เร็วแค่ไหนเพราะมีบ้างที่เราโมโห แต่อีกวันหนึ่งพอลืมตาตื่นขึ้นมาเรื่องราวนั้นก็หายไปแล้ว เพียงเราเข้าใจว่าอารมณ์นั้นเป็นเรื่องที่เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา” ไออธิบายเสริม

 

 

เมื่อรักต้องปรับจูน

ไอกล่าวว่า “ผมคิดว่าเป้าหมายในชีวิตคู่นั้นต้องปรับและมีร่วมกันในบางส่วน ยิ่งมีส่วนที่ร่วมกันเยอะมากเท่าไหร่ยิ่งดี ถ้าเรามีเป้าหมายเหมือนกัน เวลาพูดคุยกันก็เข้าใจและรู้ว่าเราทำไปเพื่ออะไร ตั้งแต่เด็กผมเป็นคนจริงจังกับทุกอย่างในชีวิต ต้องวางแผนและมีเป้าหมายชัดเจนล่วงหน้า 5-10 ปี พอผมพูดเรื่องนี้จริงจัง เขาก็บอกว่า คิดทำไม จนช่วงหลังๆ เขายอมพูดคุยเรื่องการวางแผนชีวิตกับเรามากขึ้น แต่เขาก็คอยเตือนว่าระหว่างทางไม่ต้องซีเรียสขนาดนั้น เรื่องที่ผมต้องปรับตัวคือรู้จักผ่อนคลายบ้าง ใช้ชีวิตแบบไม่ตึงจนเกินไป” เราเองก็เห็นด้วยเช่นกันว่า ความรักที่ดีต้องมีการวางแผน แต่ระหว่างทางต้องผ่อนคลายเพื่อให้ความสัมพันธ์ไม่ตึงเครียดจนเกินไป เพื่อช่วยกันประคับประคองความรักให้ยืนยาว 

 

เติมรักให้กันและกัน

ในชีวิตจริงสามีภรรยาคู่นี้หมั่นเติมความหวานด้วยการบอกรักและกอดหอมกันทุกคืนก่อนนอน แต่ฝ่ายสามีนั้นไม่เชื่อเรื่องการเซอร์ไพรส์ขอแต่งงานสักเท่าไหร่ “ผมไม่มีเซอร์ไพรส์และไม่เชื่อเรื่องนี้ ผมมองว่าการขอแต่งงานแบบนั้นอีกฝ่ายต้องไม่รู้จริงๆ ว่าเราจะขอ วัดกันไปเลยว่าจะแต่งหรือไม่ เวลาผมเห็นวิดีโอแบบนี้ผมก็บอกเขาว่าผมไม่ขอนะ แต่เราก็วางแผนว่าจะแต่งงานเมื่อไหร่ ส่วนเรื่องการเอาใจใส่ดูแลเราใช้วิธีถามไถ่สารทุกข์สุกดิบ ไปไหนก็ไปด้วยกัน เหมือนเป็นส่วนหนึ่งของกันและกันอยู่แล้ว”

ส่วนนิสัยใจคอบางอย่างและการใช้ชีวิตก็มีความแตกต่างกัน ทุกวันสามีหนุ่มมักตื่นแต่เช้าไปวิ่งออกกำลังกาย ด้วยเหตุนี้ภรรยาสาวจึงขอเล่าต่ออย่างเคอะเขินว่า “เขาเป็นคนตื่นเช้ามาก แต่หนูชอบนอนตื่นสาย เรื่องอาหารการกินก็ไม่เหมือนกัน เขากินได้ทุกอย่าง แต่หนูเป็นคนเลือกกิน อะไรที่แปลกๆ จะไม่กินเลย” หลังจากภรรยาสาวพูดจบ สามีสุดหล่อก็อธิบายอย่างอารมณ์ดีว่า พออยู่ด้วยกันไปนานๆ ก็รู้ว่าภรรยาเป็นคนแบบไหน ตนจึงไม่ได้ฝืนหรือบังคับให้เธอต้องทำในสิ่งที่ไม่ชอบ แต่กลับให้ความสำคัญเรื่องการวางแผนและสร้างเป้าหมายในชีวิตคู่ ซึ่งหากชีวิตคู่ขาดสิ่งนี้ก็อาจเกิดความขัดแย้งกันมากขึ้นได้

 

 

เพื่อนคู่คิด มิตรคู่ใจ

เมื่อความสัมพันธ์พัฒนามาเป็นคนรักแล้ว ถึงวันนี้มีความรู้สึกพิเศษหรือความประทับใจอะไรกันบ้าง ฝ่ายชายบอกด้วยน้ำเสียงที่จริงจังว่า “เรารู้จักกันมานาน เขาน่ารัก เรียบร้อย ผมประทับใจเขาที่เป็นคนเก่ง พ่อแม่ของผมก็รู้จักและชอบสองมาตั้งแต่ตอนเด็กๆ แล้ว” ส่วนฝ่ายหญิงหันไปยิ้มให้สามีก่อนตอบ “เราประทับใจเขาหลังจากที่เริ่มคุยกันแล้ว เขาไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิดไว้หรือมองเขาเป็นแค่เพื่อนคนหนึ่งอีกต่อไป เรามองเขาในฐานะผู้ชายคนหนึ่ง เขาเป็นคนมีความคิดที่ดี สิ่งสำคัญคือเขาไม่เคยคิดร้ายหรือเบียดเบียนใคร”

เราถามทั้งคู่ต่อว่า ถึงวันนี้มีเรื่องใดที่ยังไม่เคยบอกแก่กันอีกไหม “ผมอาจไม่ได้บอกว่ารู้สึกดี รู้สึกรัก แต่ทุกครั้งที่คิดย้อนกลับไปผมรู้สึกเสมอว่า ผมโชคดีที่ได้รู้จักเขามาตั้งแต่เด็ก เราอยู่ด้วยกันมาสิบปีไม่มีเบื่อ เรื่องราวมันเปลี่ยนไปตลอด ด้วยกิจกรรมที่เราทำ ผมทำธุรกิจส่วนตัวจากห้องเล็กๆ จนกลายมาเป็นตึก มันมีเรื่องราวที่เราคุยกันได้ไม่รู้จบ ครอบครัวเราโชคดีตรงที่เชื่อมโยงถึงกันหมดตั้งแต่รุ่นพ่อแม่ ผมโชคดีมากๆ ที่ตัดสินใจจีบเขาในวันนั้น พูดไปก็เหมือนละคร แต่ผมมีภาพในหัวว่าถ้าคบกับเขา ชีวิตของเราต้องเหมือนเพื่อนที่มีความสุขและสนุกไปด้วยกัน ถึงวันนี้ก็เป็นแบบนั้นจริงๆ”

ส่วนภรรยาสาวร่างเล็กตอบสั้นๆ อย่างจริงใจว่า “ไอเป็นคู่คิดที่ดี หากเรามีเรื่องต้องตัดสินใจ ไม่ว่าเรื่องงาน เพื่อน หรือครอบครัว ก็สามารถปรึกษาปัญหาและพึ่งพาเขาได้ทุกเรื่องจริงๆ” แม้เป็นคำพูดสั้นๆ จากภรรยา แต่เรากลับรับรู้ได้ถึงความรักที่เธอมอบให้สามีผ่านแววตาและคำพูดที่เรียบง่ายแต่ออกมาจากใจ

ว่ากันว่าการเริ่มต้นรักกันนั้นง่าย เพราะบางคนใช้เวลาไม่มากเท่ากับการรักษาความสัมพันธ์ที่มีอยู่ให้ยั่งยืน สิ่งสำคัญคือการที่คนสองคนพยายามปรับตัวเข้าหากัน รวมทั้งเข้าใจมุมมอง ทัศนคติของอีกฝ่าย และหมั่นเติมความรักอย่างสม่ำเสมอ ช่วยให้ความรักของคุณมีความสุขและเพิ่มเติมรอยยิ้มในชีวิตรักได้บ้างไม่มากก็น้อย ลองดู