ช่วงนี้คู่รักหลายๆ คู่ต้องเผชิญกับสภาพการณ์แปลกใหม่ที่เรียกกันว่า New Normal ความปกติใหม่ที่เราทุกคนประสบร่วมกันเป็นครั้งแรก สถานการณ์ในยุคโควิด-19 กดดันให้ทุกวงการต้องเปลี่ยนแปลงและปรับตัวให้เข้ากับปรากฏการณ์แห่งยุค ไม่เว้นแม้แต่เรื่องความรัก

บางคู่อาจต้องเว้นระยะห่าง (social distancing) ทั้งที่ตามปกติก็ไม่ได้หวานกันจี๋จ๋าอยู่แล้ว ยิ่งต้องเว้นระยะห่าง ยิ่งห่างกันใหญ่ หรือบางคู่กลับมีเวลาว่างมากเกินไป อยู่ด้วยกันนานๆ เข้าก็ชักเบื่อ (อ้าว ไหงเป็นงั้น) แต่ไม่ว่าจะเป็นไปในรูปแบบไหน ก็ไม่ต้องกังวลใจ ฮักมีเคล็ดลับดีๆ มาฝากกัน ให้คู่รักทุกคู่จับมือกันผ่านวิกฤติช่วงนี้ไปให้ได้

 

+ โซเชียลสร้างรัก

ในเมื่อเป็นยุคแห่งโซเชียล จะมองหาตัวช่วยตัวอื่นไปทำไมกัน ก็ใช้สื่อโชเชียลนี่ละให้เป็นประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็น Line IG Facebook หรือ TikTok ก็มีให้เลือกเติมความหวานจนโลกต้องอิจฉา ออดอ้อนผ่านโซเชียลให้ชัดเจนกันไปเลย เผื่อใครที่คิดแทรกตัวเข้ามาในช่วงนี้ จะได้ถอยกลับไปคิดใหม่ให้ดีซะก่อน

 

+ ธรรมชาติเพิ่มหวาน

ในช่วงที่สถานการณ์โควิด-19 ยังตึงเครียดอยู่ หลายคู่อาจไม่ค่อยได้เจอกัน และเริ่มรู้สึกจำเจที่ต้องขลุกอยู่กับบ้าน สถานที่นัดเดตจึงเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยเพิ่มดีกรีความหวานไม่ให้รักมันจืดชืด แม้สถานที่ต่างๆ อย่างร้านอาหาร ร้านกาแฟ หรือห้างสรรพสินค้า จะเปิดให้บริการกันตามปกติ แต่บรรยากาศก็ไม่เหมือนเดิม เพราะต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันที่รัฐกำหนด สถานที่เดตที่เหมาะกับช่วงนี้มากๆ ต้องเน้นธรรมชาติเท่านั้น อากาศปลอดโปร่ง แบบเอาท์ดอร์นี่แหละดี ไม่เพียงแต่จะมี social distancing จากคู่อื่นๆ ได้อย่างปลอดภัยแล้ว ความสวยงามของธรรมชาติก็ยังช่วยเพิ่มความโรแมนติกให้ความรักของคุณทั้งคู่ดูสดใสขึ้นอีกด้วย คู่ไหนที่เริ่มรู้สึกเบื่อๆ ลองเกี่ยวก้อยกันออกไปสูดอากาศในธรรมชาติดูบ้างสิ ช่วยได้เยอะนะ

 

+ ห่างแต่ดี

ก่อนหน้านี้หลายคู่ที่ติดแจ ไม่ค่อยได้แยกจากกัน ไปไหนไปด้วยกันเสมอๆ และนึกภาพไม่ออกว่า ถ้าห่างกันแล้ว คู่ของคุณจะเป็นอย่างไร แต่พอถึงยุคที่โควิด-19 คุกคามมันก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับชีวิตปกติวิถีใหม่ หรือที่เรียกกันว่า New Normal กันบ้าง การที่คุณทั้งสองจำใจต้องห่างกันในช่วงโควิดนั้น อาจส่งผลดีต่อความสัมพันธ์ก็เป็นได้ คุณอาจคิดถึงกันมากขึ้น เพราะเมื่อก่อนนั้นอยู่ด้วยกันจนเกิดความเคยชิน เผลอลืมไปว่าความคิดถึงนั้นมีอานุภาพร้ายแรงเพียงไร หรือคุณอาจจะทะเลาะกันน้อยลง เพราะต่างฝ่ายต่างมีเวลาส่วนตัวมากขึ้น เมื่อได้อยู่กับตัวเอง ได้ทำสิ่งที่ชอบ อารมณ์ก็ดีขึ้นตามลำดับ ส่งผลถึงความสัมพันธ์ที่พัฒนา พอหมดช่วงสถานการณ์โควิด หลายคู่อาจติดใจกับการค้นพบเทคนิครักษาความสัมพันธ์แบบใหม่นี้ แล้วลองเอาไปใช้ต่อก็น่าจะเวิร์คนะ.

DID YOU KNOW?

New Normal หรือความปกติในรูปแบบใหม่ เป็นคำศัพท์ที่ถูกใช้เป็นครั้งแรกเมี่อ ค.ศ. 2008 โดยบิลล์ กรอสส์ (Bill Gross) นักลงทุนในตราสารหนี้ชื่อดัง และเป็นผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Pacific Investment Management (PIMCO) เขาให้นิยาม New Normal ในบริบทเศรษฐกิจโลกเอาไว้ว่า เป็นสภาวะที่เศรษฐกิจโลกมีอัตราการเติบโตชะลอตัวลงจากในอดีต และเข้าสู่อัตราการเติบโตเฉลี่ยระดับใหม่ที่ต่ำกว่าเดิม ควบคู่ไปกับอัตราการว่างงานที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องหลังเกิดวิกฤติทางการเงินในสหรัฐฯ

 

+ข้อมูลจากนิตยสารการเงินธนาคาร ฉบับเดือนพฤษภาคม 2015 (โดย เขมรัฐ ทรงอยู่)