สมดุลของความรัก–เท่าไหร่ถึงเรียกว่าพอดี

แม้ว่าสมัยนี้มีเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกให้เราได้พบเจอหนุ่มๆ ง่ายขึ้น มีตัวเลือกมากขึ้น แต่จะมีสักกี่คนที่โชคดีมีรักดีๆ มั่นคงตั้งแต่อายุยังน้อย แน่นอนว่าผู้หญิงสมัยนี้เก่งขึ้น หาเงินเลี้ยงตัวเองได้ แต่งงานช้าลง แต่อัตราการหย่าร้างกลับเพิ่มขึ้น ดังนั้นในช่วงหนึ่งของชีวิตสาวๆ หลายคนจึงมีช่วงเวลาที่โสด จะโสดนานหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับจังหวะและเวลา ประเด็นคือ อะไรคือความพอดีสำหรับการออกแบบความรักของชีวิตเรา? ฉบับนี้ Wonder Wanners ขอหยิบยกประเด็นนี้มาชวนให้คุณได้ขบคิดกัน

บางคนบอกว่าอยู่เฉยๆ ไม่ต้องทำอะไร เดี๋ยวรักก็เข้ามาเอง แต่ถ้าวันเวลาล่วงเลยไป จนอายุย่าง 30 หรือ 40 แล้ว เราจะยังอยู่เฉยๆ ไหม ใช้ชีวิตอยู่แต่ในบ้าน ไม่ทำอะไร แล้วความรักจะลอยมาหาได้อย่างไร

สำหรับ Wonder Wanners ตอนเด็กๆ ก็เคยเชื่อว่า ไม่ต้องทำอะไรมาก เดี๋ยวเจ้าความรักก็เข้ามาเอง (แล้วมีใครเข้ามาไหม และสมหวังหรือเปล่า) แต่เมื่ออายุมากขึ้น เราเห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้นว่า ความรักนั้นคล้ายกับการหาเงิน ถ้าเราอยากรวยแต่ไม่ลงมือทำอะไรสักอย่าง เราจะรวยได้อย่างไร การซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลโดยหวังว่าจะถูกรางวัลที่ 1 นั่นก็คือการลงมือทำอย่างหนึ่ง คือเลือกเลขและลงทุนซื้อ ความรักก็เช่นกัน ถ้าอยากมีรักก็ต้องลงมือทำ

 

 

บางคนขยันมาก อยากมีรักดีๆ ก็ทำทุกช่องทาง เช่น บอกให้เพื่อนๆ แนะนำคนรู้จักที่ยังโสดให้ เล่นแอพพลิเคชั่นหาคู่ ไปพบปะผู้คนมากหน้าหลายตาร่วมกิจกรรมต่างๆ อย่างอีเว้นท์จัดหาคู่ ไปทุกวัดที่ดังเพื่อขอพรเรื่องคู่ ฯลฯ แต่ละเดือนนัดเดทกับคนนั้นคนนี้จนเพื่อนนับไม่ถูกว่ามีกี่คน ไปเดทเยอะมากแต่ก็ยังไม่สำเร็จสักที จนบางทีน่าคิดนะว่า การที่คนคนหนึ่งขยันได้ขนาดนั้น อาจแสดงถึงการโหยหาความรัก จนกลายเป็นความขาดแคลนหรือเปล่า เป็นเพราะมัวแต่เสาะหาความรักจากข้างนอกจนลืมรักตัวเองใช่ไหม หรือว่าจริงๆ แล้วคือการสร้างโอกาสด้านความรักที่ช่วยให้เราเข้าใกล้ความสำเร็จมากขึ้น

อย่างแรกเลยคือ เดินทางสายกลาง ตามคำสอนของพระพุทธเจ้าคือไม่สุดโต่ง ไม่พยายามมากจนเกินไปแต่ก็ต้องลงมือทำด้วย (คือเปิดโอกาสให้ตัวเองได้พบผู้คน) การเจอรักแท้นั้นก็เหมือนทุกๆ เรื่องของชีวิต คือ ต้องมีความศรัทธาว่ารักแท้ (ที่เป็นของเรานั้น) มีอยู่จริง และต้องมีความเพียรพยายาม ลงมือทำโดยไม่กลัวความล้มเหลว หากล้มแล้วก็ลุกขึ้นมาใหม่ เรียนรู้จากความล้มเหลว และปรับปรุงพัฒนาตัวเองทั้งกาย (ฟิตหุ่นให้ดูดี หน้าสวยเด้ง) ใจ (ขัดเกลานิสัยใจคอ) และปัญญา (ลับสมองให้ฉลาด หมั่นศึกษาหาความรู้) ปรุงเสน่ห์ตัวเองให้เป็นคนรักที่ดี มีคุณสมบัติแม่ของลูก จนดูเป็นธรรมชาติของเราที่ไม่ใช่เพราะดัดจริต

อย่างที่สอง การมีรักที่ดีนั้นต้องเริ่มจากการรักตัวเอง การรักตัวเองแม้เป็นเรื่องพื้นๆ แต่จริงๆ แล้วเป็นเรื่องที่ลึกซึ้งและเข้าถึงยากมาก ทุกคนมีสัญชาตญาณเอาตัวรอด ต้องคำนึงถึงตัวเองก่อน แต่การรักตัวเองคือการที่เรารัก เคารพ ภูมิใจ และนับถือในตัวเอง (ซึ่งต่างกับการหลงตัวเอง หรือที่เรียกว่า narcissism)

โดยธรรมชาตินั้น มนุษย์ย่อมอยากเป็นที่รักของคนในสังคมตัวเอง หรือเป็นที่รักของใครสักคน เป็นเรื่องธรรมดาที่เราอยากมีใครสักคนเพื่อให้เป็นที่รักและได้รับการยอมรับ แต่เราก็ไม่ควรต้องไปเสาะแสวงหาจนเราลืมรักตัวเอง เราควรทำให้ตัวเองมีความสุข การที่เราโสดไม่ได้หมายความว่าเราไม่มีค่า การเป็นโสดกลับเปิดโอกาสให้เราได้ใช้ชีวิตตามลำพัง ทำในสิ่งที่อยากทำ มีอิสระ และค้นหาความหมายของชีวิต ใช้ความโสดให้คุ้มค่า จนกว่าเราจะเจอคนที่ร่วมชีวิตแล้วดีขึ้นก็ค่อยสละโสด ไม่ต้องไปเสาะแสวงหาความรักจากภายนอก แต่จงรักตัวตนภายในของเรา เพราะเขาอยู่กับเราทุกช่วงเวลาทั้งดีและร้ายของชีวิต

อย่างที่สาม เป็นผู้ให้ ถ้าอยากมีความรักที่ดี เราต้องรู้จักให้ความรักก่อน ไม่ต้องรอว่าความรักดีๆ จะมาเมื่อไหร่ เป็นผู้ให้ก่อนเลย เช่น กอดพ่อแม่ บอกรักคนรอบข้าง สร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ ดูแลเอาใจใส่ผู้อื่น ตอบแทนสังคมโดยเป็นจิตอาสา ช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส เช่น บริจาคสิ่งของให้เด็กกำพร้า ให้ความรักโดยไม่ต้องคาดหวังว่าจะได้สิ่งใดตอบแทน กับหนุ่มๆ ที่คบหาเราก็เป็นมิตรกับเขา เปิดใจคุยเขา แต่อย่าเพิ่งทุ่มเทหมดใจ ค่อยๆ พิจารณาศึกษาดูใจไป การเรียนรู้นิสัยใจคอต้องใช้เวลา แต่ก็อย่าตั้งแง่มากจนเสียคนดีๆ ที่รักเราไปอย่างน่าเสียดาย

ความรักคือศาสตร์และศิลป์ที่ต้องใช้ผสมผสานกันอย่างเหมาะสม ความรักเป็นทักษะอย่างหนึ่งที่ต้องใช้ประสบการณ์บ่มเพาะเพื่อให้เราประสบความสำเร็จในการสร้างความสัมพันธ์กับใครสักคน ความรักเป็นหนึ่งในบรรดาเรื่องที่คาดเดายากที่สุดของชีวิต ไม่รู้ว่ามาเมื่อไหร่ แต่สิ่งสำคัญคือการทำตัวให้พร้อมสำหรับความรักดีๆ ที่จะเกิดขึ้น และรู้จักรักให้เป็น ความรักคือการเดินทางที่ทำให้เราเติบโตทั้งกายใจ อย่ากลัวที่จะมีรักใหม่ รักตัวเองให้มาก ขอให้ทุกคนมีความสุขกับความรักนะคะ

 

HUG Magazine

คอลัมน์: รอบรู้เรื่องรัก 

เรื่อง: Wonder Wanners